เศรษฐินีสาวข้ามเพศมาเลเซีย ถูกกลุ่มผู้นำศาสนากดดัน ให้กลับไปเป็นผู้ชาย MUSLIMTHAIPOST

20103

เศรษฐินีสาวข้ามเพศมาเลเซีย เผยถูกกลุ่มผู้นำศาสนาบีบให้เปลี่ยนกลับไปเป็นผู้ชาย หลังพลิกชีวิตมาเป็นเจ้าแม่วงการเครื่องสำอาง อวดไลฟ์สไตล์หรูหรา สวยงามลงไอจี

วันที่ 14 มกราคม 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า ซาฟรีย์ อิเลียส เศรษฐินีซึ่งเป็นสาวข้ามเพศ จากประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ซาฟรีย์ ได้ได้กลับใจมาเป็นผู้ชาย และได้ไปทำพิธีอุมเราะห์ ณ นครมักกะห์แล้วด้วย ( อ่านข่าวเพิ่มเติม: จากเจ้าแม่เครื่องสำอางดังกลับใจ ขอกลับตัวเป็น 'ชาย')

ล่าสุด ซาฟรีย์ ได้เปิดเผยว่า เธอรู้สึกถึงแรงกดดันจากกลุ่มผู้นำทางศาสนา ที่หวังจะเปลี่ยนเธอให้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้ชาย โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอก็เพิ่งจะปฏิเสธคำเชิญร่วมดื่มน้ำชากับ ดาโต๊ะ ซรี ซูลคิฟลี มูฮัมหมัด ผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามจากดินแดนสหพันธ์ในมาเลเซีย

"ใช่ว่าฉันไม่อยากพบท่านนะ แต่ดูเหมือนสังคมจะคาดหวังเกินไป อย่างกับว่าหลังฉันพบท่านแล้ว ฉันควรจะเปลี่ยนกลับไปเป็นผู้ชายอย่างนั้นล่ะ" ซาฟรีย์ โพสต์ในอินสตาแกรม

สำหรับการปฏิเสธคำเชิญนี้ ซาฟรีย์ยอมรับว่า ในการพบปะกับบุคคลสำคัญทางศาสนาครั้งก่อน ๆ เธอถูกกดดันให้กลับไปใช้เพศสภาพแบบผู้ชาย และเธอยังรู้สึกเหมือนได้รับแรงกดดันจากสาธารณะด้วย

ขณะที่มาเลย์เมล สื่อของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ดาโต๊ะยังใช้สรรพนามว่า "เซาดารา" ซึ่งปกติจะใช้เรียกผู้ชายในภาษามาเลย์ มาเรียกอธิบายถึงตัวสาวข้ามเพศด้วย

สำหรับ ซาฟรีย์ อิเลียส เป็นเจ้าแม่วงการเครื่องสำอาง ที่มีผู้ติดตามอินสตาแกรมของเธอเกือบล้าน เธอมักจะโพสต์ภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ของตัวเอง พร้อมเผยไลฟ์สไตล์หรูหรา ทั้งมีรถหรูขับ ไปเที่ยวชิล ๆ บนเรือยอชต์ พร้อมอวดภาพบิกินี่ให้ได้ชมกัน สะท้อนให้เห็นชีวิตสุดแฮปปี้หลังตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบผู้หญิงเต็มตัวครั้งแรกในปี 2558

ซาฟรีย์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องทนเก็บตัวตน ใช้ชีวิตในฐานะผู้ชายมาตลอด ซึ่งเธอยอมรับว่านอกจากเธอจะถูกเรื่องราวร้าย ๆ ตามมาหลอกหลอนในช่วงนั้น เธอก็ยังอยากจะได้ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงอย่างที่เธออยากจะเป็นจริง ๆ ซึ่งตอนแรกเธอก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โซเฟีย ก่อนจะยอมกลับมาใช้ชื่อเกิดตามเดิม คือ ซาฟรีย์

กฎหมายประเทศมาเลเซีย เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกันนั้นนับเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

...............

แท้จริง ศาสนาอิสลามห้ามการเลียนแบบเพศตรงข้าม ท่านรสูลุลลอฮฺ กล่าวว่า "พระองค์ทรงสาปแช่งผู้ชายที่ทำตัวเป็นผู้หญิงและผู้หญิงที่ทำตัวเป็นผู้ชาย" (บันทึกโดยบุคอรีย์) นักวิชาการอธิบายว่า การเลียนแบบเพศตรงข้าม ไม่ว่าจะเลียนแบบทางด้านการพูด,การกระทำ หรืออื่นๆ ของเพศตรงข้ามถือว่ามีความผิด และถูกสาปแช่งจากพระองค์ทั้งสิ้น แม้กระทั่งว่าผู้ชายพูดโดยลงท้ายประโยคว่า "ค่ะ" ก็ถือว่าเลียนแบบเพศตรงข้ามแล้ว (อ่านเพิ่มเติม: เป็นตุ๊ด กะเทย เกย์ ทอม ดี้ ในอิสลามว่าไว้อย่างไร?)