เบื้องหลังการสวมชุดนิกอบ สาวมุสลิมฝรั่งเศส

มุสลิมไทยดอทคอม  การสวมชุดนิกอบไม่ใช่อุปสรรคในการเล่นกีฬา

     เคนซา ดริเดอร์ วัย 31 ปีเล่นเทนนิสในคอร์ตเล็กๆ ในสวนสาธารณะหลังอาคารชุดอยู่อาศัยในเขต Avignon ภาพดังกล่าวจะดูเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก หากเธอไม่ได้อยู่ในชุดนิกอบที่ปกปิดทั้งตัว เว้นแต่ที่ดวงตาทั้งคู่

     เธอเป็นมุสลิมเชื้อสายมอร๊อกโกที่เกิดในฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในจำนวนมุสลิมไม่เกิน 2,000 คน ที่กล่าวว่าแต่งกายแบบปิดหน้าในประเทศนี้

     ถึงแม้ร่างกฎหมายที่เสนอห้ามผู้แต่งนิกอบเข้าไปติดต่อตามสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และขึ้นรถโดยสารสาธารณะ จะไม่ได้ห้ามการแต่งเดินตามถนน และรัฐบาลจะได้รับคำแนะนำว่าไม่ควรห้ามแต่งนิกอบโดยออกเป็นกฎหมาย แต่แผนที่จะเดินหน้าในเรื่องนี้ของรัฐบาลจะมีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
     อังเดร เกอริน สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และเป็นคณะกรรมการรัฐสภา เคยเปรียบเปรยว่า ผู้หญิงที่คลุมทั้งตัวเหมือนโลงศพเดินได้ และเขาเป็นผู้จุดประเด็นให้คนอื่นสังเกตผู้หญิงคลุมหน้า โดยกล่าวว่า เห็นผู้หญิงคลุมหน้าเดินตามท้องถนนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เขาถึงกับตัดสินอย่างมั่นใจว่า ผู้หญิงพวกนี้ต้องถูกสามีบังคับให้คลุมหน้าอย่างแน่นอน
     สำหรับเคนซานั้น  เธอตัดสินใจคลุมหน้าเมื่อเกือบ 11 ปีที่แล้ว โดยแอบซื้อผ้าคลุมหน้ามาเก็บไว้โดยไม่บอกสามี  อยู่มาวันหนึ่งเมื่อสามีชวนออกไปซื้อของ เธอได้หยิบผ้าขึ้นมาปิดหน้า และเมื่อสามีเห็นเขาก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากบอกว่า “พร้อมแล้วก็ไปกันเลย”
     เคนซาบอกว่า ผู้หญิงมุสลิมฝรั่งเศสทั้งที่เป็นมุสลิมดั้งเดิม และมาเข้ารับอิสลาม เลือกที่จะคลุมหน้าด้วยความพอใจของเธอเอง ซึ่งเป็นเสรีภาพส่วนบุคคลที่จะเลือกทำตามที่ต้องการ
     แต่ข้อโต้แย้งของกลุ่มที่ต่อต้านนิกอบ ไม่ได้มีเฉพาะเกี่ยวกับสิทธิสตรี หรือสถานะภาพของผู้หญิง เอลิซาเบธ บาดินเตอร์ นักปรัชญาด้านสตรีนิยมกล่าวว่า นิกอบเข้ากันไม่ได้กับหลักพื้นฐาน 3 ประการของฝรั่งเศส นั่นคือ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ
     เธอยกตัวอย่างว่า การซ่อนใบหน้าหลังผ้าคลุม เป็นความไม่เท่าเทียม โดยผู้ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า เพราะสามารถมองคนอื่นได้ทะลุปรุโปร่ง ในขณะที่ปฏิเสธไม่ให้ผู้อื่นทำเช่นนั้นกับตนเอง
     มีการนำเรื่องการปกครองแบบเซคิวล่าร์ ซึ่งฝรั่งเศสใช้มาตั้งแต่ปี 1789 ขึ้นมาเป็นประเด็น ว่ารัฐบาลไม่ได้ห้ามการนับถือศาสนา แต่การนับถือศาสนาใดๆ จะถูกจำกัดเขตอยู่เฉพาะในความเป็นส่วนตัว ซึ่งมุสลิมฝรั่งเศสเห็นว่านอกจากรัฐบาลจะพยายามจำกัดอิสลามแล้ว ก็ยังพยายามละเลยความมีอยู่ของมุสลิมในฝรั่งเศสอีกด้วย
     ปัจจุบันไม่ใช่ว่ามุสลิมจะไม่พยายามกลมกลืนเข้ากับสังคมหลัก แต่เป็นเพราะสังคมหลักไม่ยอมรับการกลมกลืนของมุสลิมต่างหาก
     ในเมืองรอบนอกที่มีมุสลิมเชื้อสายอัฟริกาเหนืออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีอัตราคนว่างงานสูงสุดในประเทศ การให้บริการด้านการศึกษาอยู่ในระดับต่ำ และความยากจนยังเป็นปัญหาหลักในพื้นที่ มุสลิมจำนวนมากโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาล ที่ไม่ได้ให้ความรู้ด้านสังคม และเศรษฐกิจ แก่ผู้อพยพที่มาใหม่ ทำให้ช่องว่างของความแตกต่างขยายกว้างขึ้น จนไม่อาจสมานฉันท์กันได้
     เคนซาฝากข้อความถึง ส.ส.ฝรั่งเศสที่ไม่เข้าใจหลักเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพของฝรั่งเศส ว่า  เสรีภาพ คืออิสรภาพในการมีสามัญสำนึก ความเสมอภาค คือ การไม่ตัดสินคนเพียงเพราะเขาเป็นผู้อพยพ และภราดรภาพ คือ การสนับสนุนคนฝรั่งเศส ให้รักในความเป็นพลเมืองฝรั่งเศส  - www.muslimthai.com