สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ทอท.นำทีมเข้าขอขมา จุฬาราชมนตรี ย้ำมุสลิมให้อภัย
keywords: จุฬาราชมนตรี, นิตินัย ศิริสมรรถการ, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด, สำนักจุฬาราชมนตรี, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, สนามบิน
ผู้บริหารการท่าอากาศยาน นำคณะผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง เข้าขอขมา ท่านจุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี และตั้งคณะทำงานร่วมแก้ไขปัญหา...
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้บริหาร บริษัท ล็อกซเลย์ เข้าพบนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เพื่อขอขมาถึงเหตุการณ์ที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตรวจความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ทำการตรวจค้นจุฬาราชมนตรี ซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น โดยใช้เครื่องมือตรวจที่ศีรษะและผ้าสะระบั่น (ผ้าโพกศีรษะ) ของท่านจุฬาราชมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา บรรยากาศการเข้าพบเป็นไปด้วยความเข้าใจด้วยดี
ขณะที่นายประสาน ศรีเจริญ รองประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยืนยันว่าท่านจุฬาราชมนตรีไม่ได้ถือโทษหรือถือสาหาความแต่อย่างใด รวมทั้งสำนักจุฬาราชมนตรีก็ไม่ได้เผยแพร่ภาพดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย แต่มีชาวมุสลิมที่เห็นเหตุการณ์และรู้สึกถึงความไม่ถูกต้องแล้วนำไปเผยแพร่ ทั้งนี้ ทางสำนักจุฬาราชมนตรียืนยันว่าหลังจากมีการขอขมาแล้วก็ต้องการให้ปัญหาดังกล่าวยุติด้วยดี เพื่อไม่ให้มีการนำประเด็นนี้ไปขยายผลใช้เป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวไม่ว่าทางการเมือง ศาสนา หรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลใด
นายประสาน กล่าวว่า การเดินทางเข้าพบของผู้บริหาร ทอท.นั้น ได้รับปากจะกลับไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น การตรวจค้นทางสำนักจุฬาราชมนตรีไม่ต้องการอภิสิทธิ์หรือยกเว้นการตรวจค้นแต่อย่างใด เพียงแต่การตรวจความปลอดภัยแก่บุคคลที่เป็นผู้ใหญ่และได้รับการนับถือในอนาคตขอให้มีการจัดทำฉากกั้นก่อนที่จะมีการตรวจค้นต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดภาพที่ไม่เหมาะสมออกไป นอกจากนี้ ทางสำนักจุฬาราชมนตรียังฝากประเด็นสำคัญขอให้ ทอท.รับไปดำเนินการปรับปรุง โดยเฉพาะในส่วนของการจัดพื้นที่สำหรับละหมาดของชาวมุสลิมในท่าอากาศยานนานาชาติทุกแห่ง ขอให้มีพื้นที่ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาเพียงพอและเหมาะสม เนื่องจากปลายปีนี้ซึ่งประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งประชากรในภูมิภาคที่มีประมาณ 600 ล้านคนนั้น ในจำนวนดังกล่าว 300 ล้านคนก็เป็นชาวมุสลิม ดังนั้น เมื่อมีการเดินทางผ่านเข้าประเทศไทยก็จำเป็นต้องมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมด้านศาสนาด้วย
นอกจากนี้ รองประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรียังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผ้าสะระบั่นที่ชาวมุสลิมโพกศีรษะนั้น ชาวมุสลิมที่โพกศีรษะลักษณะดังกล่าวเป็นการแสดงว่าบุคคลนั้นเป็นผู้อาวุโส ปราชญ์ ผู้ได้รับการยอมรับนับถือ มีคุณธรรมสูง โดยผู้โพกผ้าสะระบั่นนั้น จะประพฤติปฏิบัติแต่คุณงามความดี เมื่อการโพกผ้าสะระบั่นอยู่บนศีรษะผู้ที่มีความสำคัญ เช่น จุฬาราชมนตรี ถือเป็นหมวกของสูงตามความเชื่อของคนไทย ขณะเดียวกันผู้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีก็เป็นตำแหน่งผู้นำทางศาสนาที่มาจากการเลือกตั้งของชาวมุสลิมทั่วประเทศ 10 ล้านคน และเป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ จึงมีความสำคัญและได้รับการยอมรับนับถือจากคนทั่วประเทศ
ที่มา: www.tnamcot.com
news.muslimthaipost.com