พระนามเดิมของพระองค์ เดิมว่า สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร ซึ่งเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๕ นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
- อ่าน 'ยังไง เราก็ต้องมา' สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงตรัส ครั้นเสด็จเยือนมัสยิดปัตตานี
- อ่าน ครั้นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระบรมฯ เสด็จพระราชทานดินฝังศพแด่ท่านจุฬาฯ คนที่16
- อ่าน สมเด็จพระบรมฯ สานต่อพระราชดำริ 'เสด็จพ่อ' แปลคัมภีร์อัลกุรอาน
- อ่าน สมเด็จพระบรมฯ เสด็จปัตตานี พระราชทานรางวัล อัญเชิญอัลกุรอาน พสกนิกรปีติเฝ้ารับ
วันนี้ทางมุสลิมไทยโพสต์ ได้พบบทความน่าสนใจมานำเสนอ คือ 5 เรื่องราวอันน่าประทับใจระหว่าง “ในหลวงรัชกาลที่ 10” กับ พสกนิกรชาวไทยมุสลิม
1. พระองค์ทรงเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงานเมาลิดกลาง ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เป็นประจำทุกปี
2. พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ที่จะสานต่อพระราชดำริของ “เสด็จพ่อ” ในการแปลพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่าน ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ชาวมุสลิมไม่เคยลืมเลือน…
3. ทรงมีความผูกพันธ์กับพสกนิกรชาวมุสลิม โดยเฉพาะชาวมุสลิมในจังหวัดปัตตานี นอกจากนี้พระองค์ก็ยังเป็นเจ้าของวลี “ยังไงเราก็ต้องมา” ทำให้ชาวมุสลิมในพื้นที่รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
4. ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในการพระราชทานถ้วยรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่านระดับประเทศ เป็นประจำทุกปี
5. ทรงสนับสนุนการทำงานของบุคลากรมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ โดยพระองค์ได้เป็นผู้พระราชทานรางวัลแก่ ผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่มีความประพฤติดีและมีผลงานดีเด่น เป็นประจำทุกปี
ที่มา : islamic economics