พวกเขาได้โพสต์ลิงก์เชื่อมโยงไปยังไฟล์เอกสารที่เข้ารหัสปริมาณข้อมูลจำนวน 10GB ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องในเหตุการณ์ 9/11 โดยสัญญาว่าจะปล่อยกุญแจเข้ารหัส หากพวกเขาไม่ได้รับเงินค่าไถ่
“The Dark Overlord” เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ “ระดับมืออาชีพ” ถูกรู้จักกันดีจากกรณีโจมตีและแฮก Netflix, คลินิกศัลยกรรม และเป้าหมายอื่นๆ ที่เซนซิทีฟอีกมากมาย
พวกเขาได้โพสต์ลิงก์เชื่อมโยงไปยังไฟล์เอกสารที่เข้ารหัสปริมาณข้อมูลจำนวน 10GB ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องในเหตุการณ์ วินาศกรรม 11 กันยายน โดยสัญญาว่าจะปล่อยกุญแจเข้ารหัส หากพวกเขาไม่ได้รับเงินค่าไถ่
กลุ่มแฮกเกอร์อ้างว่าเอกสารเหล่านี้จะบอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริงของหนึ่งในเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ โดยพวกเขาทวีตว่า “เราจะให้คำตอบมากมายเกี่ยวกับการสมคบคิดในเหตุการณ์ วินาศกรรม 11 กันยายน ผ่านการแพร่งพรายโดยเอกสารลับ 18,000 ฉบับของเรา”
พวกเขาเผยแพร่ “ทีเซอร์” ซึ่งประกอบด้วยจดหมาย อีเมล และเอกสารต่างๆ ที่กล่าวถึงบริษัทด้านกฎหมาย สำนักงานความมั่นคงด้านการขนส่ง และองค์การบริหารการบินแห่งชาติ พร้อมสัญญาว่ายังจะมีตามมาอีกมากมาย
พวกเขาอ้างว่าได้แฮกเอกสารเหล่านี้มาจากบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลกอย่างลอยด์แห่งลอนดอน (Lloyds of London) และฮิสค็อกซ์ (Hiscox) รวมทั้งจาก Silverstein Properties ซึ่งเป็นเจ้าของเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์คอมเพล็กซ์ และหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ ซึ่งเอกสารที่พวกเขาแฮกมาได้นั้นรวมถึงเอกสารลับของรัฐบาลที่ตั้งใจจะทำลาย แต่ถูกเก็บรักษาไว้โดยบริษัทกฎหมาย ซึ่งนัยว่าเป็น “ความจริงเกี่ยวกับหนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ และเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ มีความกระจ่างเพียงเล็กน้อย และไร้คำตอบอย่างมากมาย”
ในประกาศเรียกค่าไถ่นี้กลุ่มแฮกเกอร์ระบุว่า ใครก็ตามที่กังวลว่าจะมีชื่อในเอกสาร ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจ่ายเงินค่าไถ่ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับ “องค์กรก่อการร้าย” และ “ประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่แข่งของสหรัฐฯ” มิฉะนั้น “เราจะฝังคุณด้วยสิ่งนี้” แฮกเกอร์ระบุ
กลุ่มแฮกเกอร์ยื่นข้อเสนอให้จ่ายเงินด้วยบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ระบุว่าจำนวนเท่าไร และไม่ได้ระบุว่าถึงเมื่อไหร่พวกเขาจึงจะปล่อยข้อมูล
เอกสารบางส่วนถูกแฮกไปในเดือนเมษายนจากสำนักงานกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับฮิสค็อกซ์ ซึ่งบริษัทรับทราบว่าอาจเปิดเผยข้อมูลผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ 1,500 ราย โดยกลุ่มแฮกเกอร์ Dark Overlord อ้างว่า ในขณะที่พวกเขาได้รับค่าไถ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแฮ็กก่อนหน้านี้ แต่เหยื่อของพวกเขาละเมิด“ ข้อตกลง” โดยร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย จึงนำมาสู่การเรียกค่าไถ่เพิ่มเติมต่อไป
กลุ่มแฮกเกอร์ “The Dark Overlord” ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2016 โดยมีการแฮกศูนย์การแพทย์แห่งหนึ่ง และนำข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปโฆษณาขายบนเว็บมืด (dark web) เพื่อบังคับให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อต้องจ่ายค่ากำจัดข้อมูลเหล่านั้น และเมื่อปีที่ผ่านมา พวกเขายังเคยแฮ็ก Netflix โดยแอบปล่อยซีรีย์ Orange is the New Black ออกมาทั้งซีซันเลยอีกด้วย
จากข้อมูลระบุมีผู้เคยตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์กลุ่มนี้ไปแล้วมากกว่า 50 ราย
สำหรับเหตุการณ์ วินาศกรรม 11 กันยายน ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือ 9/11 นั้นถือเป็นเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยเป็นการโจมตีพลีชีพที่ประสานกัน 4 ครั้ง ในนครนิวยอร์กและพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยการใช้เครื่องบิน 2 ลำพุ่งไปชนตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ทำให้ตึกถล่มและเกิดความวุ่นวายมากมาย มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน และเครื่องบินลำที่สามชนกับอาคารเพนตากอนในอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนเครื่องบินลำที่สี่ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ตกในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเหตุการณ์สื่อต่างๆ โหนกระแส และชี้เป้าว่า เป็นฝีมือของกลุ่ม อัลกออิดะฮ์ แต่ก็ยังมีข้อคลางแคลงว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ที่ก่อเหตุที่แท้จริง และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ค้างคาใจผู้คนทั่วโลกมาหลายสิบกว่าปีและยังคงลึกลับอยู่จนถึงทุกวันนี้
พร้อมกันนั้นประชาชนทั่วโลกต่าง สงสัยในลำดับต้นๆ ว่า "ทำไมภาพเหตุการณ์ วินาศกรรม 11 กันยายน จึงปรากฏออกสื่อ ในทุกๆมุมมอง มุงกล้อง ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ อย่างพร้อมเพรียง เป็นพร้อมใจกัน อย่างน่าตะลึง"
อ้างแหล่งข่าว publicpostonline