สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่านฮัสซานัลโบลเกียห์ แห่งบรูไนทรงเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันส่งเสริมหลักคำสอนศาสนาอิสลามให้เข้มแข็ง ขณะที่กฎหมายลงโทษพวกคบชู้และเกย์เซ็กซ์ด้วยการ ‘ปาหินจนตาย’
สุลต่านบรูไน วอนเชิดชูอิสลามให้เข้มแข็ง โทษปาหินคบชู้ เริ่มบังคับใช้!
สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่านฮัสซานัลโบลเกียห์ แห่งบรูไนทรงเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันส่งเสริมหลักคำสอนศาสนาอิสลามให้เข้มแข็ง ขณะที่กฎหมายลงโทษพวกคบชู้และเกย์เซ็กซ์ด้วยการ ‘ปาหินจนตาย’ คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (3 เม.ย.)
บทลงโทษทางศาสนาขั้นรุนแรงซึ่งรวมถึงการตัดมือและเท้าผู้ที่เป็นขโมยจะทำให้บรูไนกลายเป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ที่นำกฎหมายชารีอะห์มาบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในระดับชาติ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย
สำหรับความผิดฐานข่มขืนและปล้นชิงทรัพย์ก็มีโทษถึงขั้นประหารเช่นกัน และยังมีบทลงโทษอีกหลายอย่างที่จะถูกบังคับใช้ทั้งกับมุสลิมและผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม เช่น โทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัด เป็นต้น
ท่าทีของรัฐบาลบรูไนเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก โดยองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมาประณามว่าเป็นบทลงโทษที่ทั้ง “ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม” เกินไป ขณะที่บรรดาเซเลบของโลกนำโดย จอร์จ คลูนีย์ และ เซอร์ เอลตัน จอห์น ถึงกับเรียกร้องให้มีการบอยค็อตต์โรงแรมที่ราชวงศ์บรูไนเป็นเจ้าของ
สุลต่านบรูไนทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในวันสำคัญตามปฏิทินอิสลาม โดยทรงเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ได้ทรงเอ่ยถึงการเริ่มบังคับใช้บทลงโทษใหม่แต่อย่างใด
“ข้าพเจ้าอยากจะเห็นหลักคำสอนของอิสลามในประเทศนี้เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม” สมเด็จพระราชาธิบดีทรงมีพระราชกระแสรับสั่งถ่ายทอดสดจากศูนย์ประชุมใกล้ๆ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน
“ข้าพเจ้าขอย้ำว่า บรูไนเป็นประเทศที่อุทิศตนเพื่อการเคารพภักดีต่อองค์อัลเลาะห์ ซ.บ.”
พระองค์ตรัสด้วยว่า ทรงมีพระราชประสงค์จะให้เสียง ‘อาซาน’ เชิญชวนสู่การละหมาดดังขึ้นในสถานที่สาธารณะทุกแห่ง ไม่ใช่แค่เพียงในมัสยิดเท่านั้น เพื่อเตือนให้ชาวมุสลิมได้รำลึกถึงหน้าที่ที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า
อย่างไรก็ตาม สุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ซึ่งครองสิริราชสมบัติมานานกว่า 5 ทศวรรษ ทรงยืนยันว่าบรูไนยังคงเป็นประเทศที่มีความ “เป็นธรรมและมีความสุข”
“ใครก็ตามที่มาเยือนที่นี่จะได้รับประสบการณ์ที่แสนหวาน และมีความสุขกับบรรยากาศที่ปลอดภัยและผสมผสานกลมกลืน”
ล่าสุด เจ้าหน้าที่บรูไนยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าบทลงโทษขั้นรุนแรงตามหลักชารีอะห์เริ่มมีผลบังคับแล้วหรือยัง ทว่ารัฐบาลได้ประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่าบทลงโทษใหม่จะมีผลบังคับใช้จริงตั้งแต่วันพุธ (3 )
ฟีล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ประจำภูมิภาคเอเชีย ชี้ว่าการปาหินจนตายนั้น “ป่าเถื่อนอย่างที่สุด” และเป็นการ “นำบทลงโทษยุคโบราณมาใช้กับการกระทำที่ไม่ควรถือเป็นอาชญากรรมด้วยซ้ำ”
สุลต่านบรูไนทรงประกาศจะนำกฎหมายชารีอะห์มาบังคับใช้แบบเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่ปี 2013
กฎหมายใหม่กำหนดระวางโทษประหารชีวิตด้วยการปาหินสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ส่วนหญิงที่มีเซ็กซ์กับหญิงด้วยกันจะมีโทษเฆี่ยนสูงสุด 40 ไม้ หรือจำคุกสูงสุด 10 ปี
รัฐบาลบรูไนเริ่มบังคับใช้กฎหมายส่วนแรกเมื่อปี 2014 โดยเป็นบทลงโทษสำหรับความผิดสถานเบา เช่น การปรับเงินหรือจำคุกผู้ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เช่น ไม่ไปละหมาดวันศุกร์ เป็นต้น
นักวิเคราะห์มองว่า สุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ทรงพยายามสร้างเครดิตทางศาสนาเพื่อดึงความศรัทธาจากมุสลิมสายอนุรักษนิยมในประเทศ หลังเศรษฐกิจบรูไนที่เคยเฟื่องฟูจากการส่งออกน้ำมันเริ่มเข้าสู่ขาลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้
- บาปของการคบชู้อิสลาม ประหารด้วยการปาหิน บทลงโทษในอิสลาม
- ปาหินประหารเกย์ บรูไนบังคับใช้แล้ว!
- เอลตัน จอห์นร่วมต้านโรงแรมบรูไน
- จอร์จ คลูนีย์ ปลุกกระแสต้านบรูไนประหารเกย์
ที่มา: mgronline.com