ทรัมป์เตือนอิหร่าน 'ระวังตัวให้ดี' หลังขู่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินลิมิต

ทรัมป์เตือนอิหร่าน 'ระวังตัวให้ดี' หลังขู่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินลิมิต

รอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฝากคำเตือนถึงอิหร่านวันที่ 7 ก.ค. ให้ “ระวังตัวให้ดี” หลังเตหะรานประกาศจะเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้เกินกว่าที่ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระบุ ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ

ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษซึ่งร่วมเป็นภาคีในข้อตกลงนิวเคลียร์ต่างแสดงความวิตกกังวลต่อคำประกาศล่าสุดของเตหะราน ซึ่งเป็นไปเพื่อบีบให้ตะวันตกยอมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่บีบคั้นเศรษฐกิจของตนอยู่

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้จะปลีกตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกทุกๆ 60 วัน เว้นเสียแต่ชาติภาคียุโรปจะช่วยปกป้องอิหร่านจากมาตรการคว่ำบาตรของทรัมป์

“เราได้เตรียมพร้อมที่จะเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับและปริมาณเท่าใดก็ได้” เบห์รุซ คามัลวานดี โฆษกสำนักงานพลังงานปรมาณูของอิหร่าน ระบุ

“ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า กระบวนการทางเทคนิคจะสิ้นสุดลง และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินกว่า 3.67% จะเริ่มขึ้น” 

ทั้งนี้ ก่อนจะมีการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อิหร่านได้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมใกล้ถึงระดับ 20% โดยระดับที่สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้คือ 90%

คามัลวานดี ยืนยันว่า อิหร่านมีเป้าหมายที่จะเพิ่มระดับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 5% เพื่อนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าบูเชห์

ผู้นำสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนจะเดินทางออกจากเมืองมอร์ริสทาวน์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อวานนี้ (7) โดยระบุว่า “อิหร่านควรระวังตัวให้ดี ถ้าคุณเสริมสมรรถนะยูเรเนียมด้วยเหตุผลอย่างหนึ่ง... ซึ่งผมคงไม่บอกหรอกนะว่าคืออะไร แต่มันไม่ดีแน่ๆ... ก็ขอให้ระวังตัวไว้”

ทรัมป์ ระบุว่า อิหร่าน “ทำสิ่งที่ไม่ดีหลายอย่าง” พร้อมสำทับว่าเตหะราน “จะไม่มีวันได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์”

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลออกมาโวยวายว่าการกระทำของอิหร่านถือเป็นย่างก้าวที่ “อันตรายอย่างยิ่ง” และมีเป้าหมายเพื่อผลิตระเบิดนิวเคลียร์ พร้อมย้ำให้ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรลงโทษอิหร่าน

รัฐบาลอิหร่านยืนยันว่าไม่เคยต้องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และประเด็นหลักๆ ที่เรียกร้องจากยุโรป รวมถึงเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเปิดเจรจากับสหรัฐฯ ก็คือ อิหร่านจะต้องสามารถส่งออกน้ำมันได้ในระดับเทียบเท่ากับช่วงก่อนที่สหรัฐฯ จะถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์และรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตร

การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านยังแผ่ลามไปสู่มิติด้านการทหาร โดยวอชิงตันกล่าวหาเตหะรานว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำในตะวันออกกลาง และยังยิงสอยอากาศยานไร้คนขับของอเมริการ่วง จน ทรัมป์ เกือบจะสั่งโจมตีทางอากาศตอบโต้อยู่รอมร่อ

ชาติยุโรปแม้จะไม่เห็นด้วยที่ ทรัมป์ สั่งถอนอเมริกาจากข้อตกลงปี 2015 แต่ก็ล้มเหลวในการรักษาข้อตกลงฉบับนี้ และไม่อาจป้องกันเศรษฐกิจอิหร่านจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งทำให้เตหะรานสูญเสียรายได้จากการส่งออกน้ำมันไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์

ประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศสออกมาประณามการตัดสินใจของอิหร่านว่าเป็นการ “ละเมิด” ข้อตกลง ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกร้องให้อิหร่านยับยั้งและยกเลิกการกระทำที่ขู่ไว้เสีย

เตหะรานยังคงเหลือช่องทางสำหรับการเจรจาเอาไว้ โดย โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ทวีตข้อความวานนี้ (7) ว่ามาตรการปลดเปลื้องตนเองจากข้อตกลงนิวเคลียร์สามารถ “ถอยกลับได้” หากรัฐภาคียุโรปปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่ออิหร่าน

แหล่งข่าวในทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยว่า กลไกระงับข้อพิพาทในข้อตกลงนิวเคลียร์จะยังไม่ถูกบังคับใช้ และรัฐบาลฝรั่งเศสจะให้เวลาทุกฝ่ายได้ลองหันหน้าพูดคุยกันอีกครั้งจนถึงวันที่ 15 ก.ค. 

ภายใต้กลไกที่เรียกว่า ‘snapback’ หากความพยายามยุติข้อขัดแย้งทุกอย่างล้มเหลว มาตรการคว่ำบาตรที่ยูเอ็นเคยลงโทษอิหร่านในอดีตจะกลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้ง

•  เดือด! 'ทรัมป์'ขู่อิหร่าน เจอตอบโต้ ขั้นทำลายล้าง
• อิรัก สั่งประหาร 3นักรบไอเอส ชาวฝรั่งเศส
• 'ทรัมป์' เจ้าภาพเลี้ยงอาหารละศีลอด
• 'ทรัมป์' เป็นขวัญใจพวกเกลียดกลัวอิสลาม
• รักแรก! คู่รักปาเลสไตน์ได้พบกันนอกคุก หลังหมั้น 11 ปี
• มุสลิมศรีลังกาผวา! พระหัวรุนแรงให้ขว้างหินจนตาย นี่คือข้ออ้าง?
• ซาอุฯ ประหารนักวิชาการศาสนา ข้อหาก่อการร้าย

ที่มา:  mgronline.com