แถลงการณ์สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี กรณีการตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียน ศาสนฑูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในประเทศฝรั่งเศส
แถลงการณ์สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี
กรณีการตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียน ศาสนฑูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในประเทศฝรั่งเศส
กรณีในประเทศฝรั่งเศสมีการตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสนฑูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และรัฐบาลฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนสนับสนุนการเผยแพร่ภาพล้อเลียนดังกล่าว ภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในฝรั่งเศส และรัฐบาลฝรั่งเศสยังมีท่าทีก้าวร้าวดุดันต่อมุสลิมมากขึ้น ภายหลังเหตุการณ์สังหารครูในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้ซึ่งนำภาพล้อเลียนดังกล่าวมาสอนนักเรียนในห้องเรียน โดยรัฐบาลอ้างว่าฆาตกรเป็นมุสลิมหัวรุนแรง นำไปสู่การปิดมัสยิดหลายแห่ง และปิดองค์กรการกุศลของมุสลิมอีกจำนวนมาก
สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ในฐานะองค์กรมุสลิมที่ทำงานด้านมนุษยธรรมตลอด 6 ปีที่ผ่านมา โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติศาสนาของผู้คน พบว่าการให้เกียรติกันและกันในระหว่างผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ ไม่นำเอาความเชื่อของแต่ละกลุ่มมาประณามหยามหมิ่น พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม จะเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมพหุวัฒนธรรม ขณะเดียวกันมีบทเรียนจากหลาย ๆ ประเทศที่เกิดความขัดแย้งและเหตุการณ์ความรุนแรงว่า สาเหตุสำคัญของความรุนแรงดังกล่าวคือ อคติ ความไม่เข้าใจ การประณามหยามหมิ่นกันและกัน รวมทั้งการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมของรัฐบาล การเลือกปฏิบัติของรัฐต่อประชาชนซึ่งมีความแตกต่างหลากหลาย
การกระทำของรัฐบาลฝรั่งเศสในปัจจุบัน นับได้ว่ากำลังสร้างชนวนเหตุของความแตกแยกขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะรัฐบาลฝรั่งเศสไม่มีความเป็นธรรมในการให้สิทธิและเสรีภาพแก่ประชาชน และแบ่งแยกไม่ได้ว่า อย่างไรที่เรียกว่าเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และอย่างไรที่เรียกว่าเป็นการให้เกียรติต่อความต่างในสังคม เพราะแยกไม่ออกจึงอนุญาตให้คนกลุ่มหนึ่งกระทำการละเมิดต่อศรัทธาของคนอีกกลุ่มได้ ภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นเสรีภาพ ทั้ง ๆ ที่การใช้เสรีภาพที่ถูกต้องไม่ควรละเมิดต่อสิทธิของผู้อื่น ทั้งในแง่สิทธิทางร่างกาย ทรัพย์สิน และสิทธิในด้านความเชื่อถือศรัทธา
แต่เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสอนุญาตให้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสนทูตแห่งอิสลาม มิหนำซ้ำยังใช้เหตุการณ์ฆาตกรรมครูมาปิดมัสยิดและองค์กรการกุศลของมุสลิมหลายแห่งในฝรั่งเศส ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ผู้ก่ออาชญากรรม สะท้อนความคิดบางอย่างในจิตใจของหัวหน้ารัฐบาลที่เต็มไปด้วยอคติต่ออิสลามและมุสลิม เป็นอคติที่ปิดกั้นมิให้ผู้นำฝรั่งเศสได้ศึกษาเรียนรู้อิสลามอย่างถ่องแท้เพื่อได้รู้ว่าอิสลามสอนอะไร อีกทั้งเป็นอคติที่ทำให้ผู้นำฝรั่งเศสไม่สามารถสร้างความเป็นธรรม และความเสมอภาคแก่ประชาชนของตนทุกหมู่เหล่าได้ จึงปล่อยให้ศาสนาและกลุ่มมุสลิมซึ่งเป็นประชาชนฝรั่งเศสเหมือนกับศาสนิกอื่น ๆ เท่านั้นที่ถูกละเมิดสิทธิด้านความเชื่อถือศรัทธา โดยรัฐบาลฝรั่งเศสไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ในการปกป้องสิทธิเหล่านั้น
สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลฝรั่งเศสให้ปฏิบัติการณ์ดังต่อไปนี้
1. เคารพต่อความเชื่อถือศรัทธาทางศาสนาของประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ปล่อยให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งละเมิดสิทธิแห่งความศรัทธานั้นด้วยการสร้างภาพขึ้นล้อเลียน ใส่ร้ายป้ายสี โดยปราศจากมูลความจริง
2. ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสังหาร ด้วยการจับกุมลงโทษผู้กระทำผิดตามกระบวนการยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นศาสนิกใด
3. ประธานาธิบดีฝรั่งเศสควรศึกษาประวัติศาสตร์ชาติฝรั่งเศสและประวัติศาสตร์อิสลามให้มากขึ้น เพื่อเปรียบเทียบกันและนำไปสู่บทสรุปได้ว่า ฝรั่งเศสเองคือชาติที่ทำการรุกรานโลกมุสลิมตลอดมา มีการเข่นฆ่าผู้คนนับล้านคน สูบกินทรัพยากรธรรมชาติ ทำลายอารยธรรมอิสลาม และสร้างความเลวร้ายต่าง ๆ นานาขึ้นในโลกมุสลิม จนก่อให้เกิดการอพยพละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดไปอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสเองและประเทศอื่น ๆ ในยุโรปในฐานะพลเมืองชั้น 2 ซึ่งความเหลื่อมล้ำนี้ได้กลายเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแนวคิดตกขอบรุนแรงด้วย
4. หยุดการสนับสนุนการสร้างภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสนทูตอิสลาม และสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปว่าเสรีภาพในการแสดงออกไม่ได้หมายถึงการดูหมิ่นศาสนาได้อย่างเสรี
5. หยุดการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ในประเทศมุสลิม เช่น ลิเบีย อาร์เซอร์ไบจาน และอื่น ๆ เนื่องจากสงครามการเมืองเหล่านั้นเป็นเหตุให้เกิดการอพยพโยกย้ายไปใช้ชีวิตในบ้านเมืองอื่นในภาวะถูกกดดัน จนอาจกลายเป็นคนที่มีความคิดอ่านตกขอบสุดขั้วได้
ในส่วนของประชาชาติอิสลาม ขอให้ปฏิบัติดังนี้
1. ศึกษาหาความรู้ ให้เข้าใจอิสลามอย่างลึกซึ้งถ่องแท้ และใช้ความรู้ที่มีประพฤติปฏิบัติตนเป็นมุสลิมที่ดีตามหลักศาสนา
2. หากเผชิญกับกระแสอิสลาโมโฟเบียและการใส่ร้ายอิสลามอย่างอคติจากคนบางกลุ่ม ให้ใช้ความอดทนอดกลั้นโดยไม่ปฏิบัติการณ์ตอบโต้ด้วยความรุนแรง แต่ใช้วิทยปัญญาและสันติวิธีเป็นหลัก
3. สร้างสัมพันธ์อันดีกับพี่น้องต่างศาสนิกที่อยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน บนพื้นฐานของหลักการแสวงจุดร่วม สงวนจุดด่าง
4. คว่ำบาตรสินค้าต่าง ๆ ที่มาจากประเทศฝรั่งเศส จนกว่าประเทศดังกล่าวจะยุติการสนับสนุนภาพล้อเลียนศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ
5. รักษาความเป็นพี่น้องในหมู่มุสลิมให้มีความแนบแน่นยั่งยืน โดยมุ่งแก้ปัญหาอิสลาโมโฟเบียกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มากกว่าการนำประเด็นปลีกย่อยมาขัดแย้งกันเอง
สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี หวังว่าฝรั่งเศสจะใช้ความเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามคำกล่าวอ้าง รับฟังข้อเสนอแนะเหล่านี้ และร่วมกันใช้ศักยภาพที่มีเพื่อสร้างความยุติธรรม ความสมานฉันท์ และความเป็นภราดรภาพ อันเป็นรากฐานของสันติสุขอันแท้จริงต่อไป
สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี