ผู้นำศาสนาจังหวัดปัตตานี 100 กว่าคน นำทีมขบวนคาราวานกิจกรรมเผยแพร่อิสลามให้กับชาวออรังอัสลีหรือชาวเขาซาไก จำนวน 32 คนในป่าลึก
ยกทีมบุกป่าขึ้นเขา เผยแผ่อิสลามแก่ชาวซาไก
14 ธค.63 สภาอุลามะห์ฟาฏอนี, ทีมงานอุลามะห์ บาบออับดุลอาซิซ ยานยา นายกสมาคมปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนใต้. และผู้นำศาสนาจังหวัดปัตตานี 100 กว่าคน นำทีมขบวนคาราวานกิจกรรมเผยแพร่อิสลามให้กับชาวออรังอัสลีหรือชาวเขาซาไก จำนวน 32 คนในป่าลึก
โดยนายอับดุลรอซัก บาโด นายกอบต.ดูซงญอ ให้การต้อนรับและร่วมขบวนขับนำเส้นทางไป ทั้งหมดต้องขับตะลุยบนเส้นทางยอดภูเขา ลึกลงไปในพื้นที่เขตตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ถือเป็นมิติใหม่สำหรับคนทำงานด้านศาสนา เส้นทางเข้าไปตามเส้นทางลึกในป่าภูเขา ระยะทางเป็นไปอย่างยากลำบาก ข้ต้องบุกป่าฝ่าดง ต้องขับลุยข้ามลำธารน้ำเชี่ยวถึง 5 ลำธาร ใช้ขบวนรถยนต์กระบะโฟรวิลไดร์ฟ ทั้งหมด 14 คัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง และเดินเท้าต่ออีก1 กิโล จนถึงที่หมาย โดยการประสานงานติดต่อกับปะจู นายชอปรี กาแต๊ะ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากชนเผ่านี้
ซึ่งโครงการนี้เป็นงานส่งเสริมโดย พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ร่วมกันกับให้กับทีมงานอุลามะห์ ซึ่งมอบหมาย ให้ ร.ท.สยมภู หวังประโยชน์ ผช.หน.ฝกร.ฉก.ปัตตานี เข้าร่วมพร้อมอำนวยความสะดวกกับทีมคาราวาน นำสิ่งของอาหารแห้งกล่องปันสุข และปุ๋ยเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งมอบพันธ์ุไม้ เสื้อผ้าและคัมภีร์อัลกุรอ่าน พร้อมแนะนำและให้ความรู้การทำสวนพืชไร่ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อไปมอบให้นายอับดุลอาซิ อับดุลเลาะหัวหน้าเผ่า กลุ่มคนอัสลี (ซาไก)ได้ใช้ประโยชน์ และพร้อมทั้งให้กลุ่มคนนี้ได้ดำเนินชีวิตเป็นผู้พิทักษ์ป่าต่อไป
อุลามะห์ และผู้นำศาสนา ต่างร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องเผ่าซาไก ให้มีความรู้ มีการศึกษา และรับอิสลามเป็นศาสนา แม้จะต่างสีผิว ต่างพื้นที่ แต่ก็มีความรักมีความจริงใจให้แก่กัน ตามแนวทางท่านศาสดานบี มูหัมหมัด ซ.ล. ซึ่งได้วางแผนการช่วยเหลือในช่วงต่อไปคือ การร่วมกันจัดซื้อที่ดินวากัฟ อีกประมาณ 15 ไร่ ให้พี่น้องเผ่าออรังรัสลี (ซาไก) และการประสาน ศอ.บต. ดำเนินการพิสูจน์สัญชาติ และยื่นขอทำบัตรประชาชน เพราะทราบข้อมูลมาว่ายังพี่น้องที่ตกหล่นและอยู่ในเขาลึก 200 คน ที่ยังใช้ชีวิตกระจายเป็นเผ่าๆเร่ร่อนอยู่ในเขตภูเขาบูโด สุไหงปาดี รอยต่อชายแดนมาเลเซีย คาดว่าจะมีกิจกรรมครั้งต่อไปในปีหน้า
นายอับดุลอาซิซ ยานยา นายกสมาคมปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า รู้สึกยินดีมากที่กิจกรรมนี้สร้างความรู้และร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เราร่วมกันสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องออรังอัสลี ครั้งก่อนหน้านี้เราได้ติดต่อกับพวกเขามาเป็นระยะหนึ่งแล้ว และพวกเขายอมรับอิสลามด้วยดี พวกเขาก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกันมีคุณค่าความเท่าเทียมกัน ควรได้สิทธิเหมือนกัน ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาให้กับประชาชาติไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าต่อไป ซึ่งต้องขอบคุณ ปะจู และทุกคน ที่ทำให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จ ครั้งต่อไปเราจะร่วมจัดหาระดมทุนเพื่อซื้อที่ดินให้กับพวกเขา พร้อมจัดสร้างมัสยิด และสถานที่ฝึกสอนเรียนรู้ตามบทบัญัติของศาสนาอิสลามต่อไป
ที่มา: siamrath.co.th