
ศาลยกฟ้อง 9 จำเลย คดี 'กองทุนออมทรัพย์ TMTV' ตัดสินจำคุกนายสง่า 20 ปี
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ศาลยกฟ้อง 9 จำเลย คดี 'กองทุนออมทรัพย์ TMTV' ตัดสินจำคุกนายสง่า 20 ปี
ศาลอาญารัชดาพิพากษา คดี 'กองทุนออมทรัพย์ TMTV' ยกฟ้องจำเลย 9 ราย ตัดสินจำคุกนายสง่า อยู่เป็นสุข 20 ปี พร้อมให้ประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ในวันที่ 11 มีนาคม 2568 – ศาลอาญารัชดามีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.3019/2564 ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับ กองทุนออมทรัพย์ TMTV ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมลักษณะ แชร์ลูกโซ่ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมาชิกจำนวนมาก
ศาลพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย 9 ราย เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่มีคำตัดสินให้ นายสง่า อยู่เป็นสุข หรือ ฟูอ๊าด ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 รับโทษจำคุก 20 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
รายละเอียดของคดี
กองทุนออมทรัพย์ TMTV ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมเงินของสมาชิก โดยมีผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลและกำไรจากการลงทุน แต่ภายหลังมีข้อร้องเรียนว่าโครงการนี้อาจมีลักษณะเป็น แชร์ลูกโซ่ และมีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ส่งผลให้สมาชิกจำนวนมากไม่ได้รับเงินคืน
จากการสอบสวน พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากที่ถูกชักชวนให้ลงทุนด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถคืนเงินได้ทั้งหมด ทำให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายสง่า อยู่เป็นสุข และพวก รวม 12 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
คำพิพากษาของศาล
ศาลมีคำพิพากษาให้ ยกฟ้องจำเลย 9 ราย ได้แก่
1. นางสาวฟาดิลา ปาทาน
2. อาจารย์มุสตอฟา อยู่เป็นสุข
3. นายอนุมัติ ศาสนูปถัมภ์
4. อาจารย์ยูซุฟ พงกาวีย์
5. นายอามีน อยู่เป็นสุข
6. นายสมพงษ์ ผ่องโสภา
7. นายปัญญา ศิริปัญจนะ
8. นายนาอีม ปานนพภา
9. นางทิติยา ทรงศิริ
ทั้งนี้ มีจำเลย เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ อาจารย์อินยาส นาคนาวา และ นางสอาด อยู่เป็นสุข
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ที่จะพิสูจน์ว่าจำเลยทั้ง 9 รายมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือมีเจตนาหลอกลวงประชาชน รวมถึงไม่มีบทบาทสำคัญในการบริหารกองทุนที่ทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยที่ 1 นายสง่า อยู่เป็นสุข
ศาลมีคำพิพากษาให้ จำคุก 20 ปี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และกระทำความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยพิจารณาแล้วเห็นว่า นายสง่าเป็นบุคคลหลักในการบริหารกองทุน และมีหลักฐานชัดเจนว่ามีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่ง อนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ โดยมีเงื่อนไขวางหลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่ศาลกำหนด
การดำเนินคดีต่อไป
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา ทนายความของจำเลยเปิดเผยว่า จำเลยที่ถูกตัดสินลงโทษจะ ใช้สิทธิอุทธรณ์ และดำเนินการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
คดีนี้เป็นที่จับตามองของประชาชน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ กองทุนออมทรัพย์ TMTV ซึ่งมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยต้องติดตามผลการพิจารณาในศาลอุทธรณ์ต่อไป ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสินหรือไม่
บทความที่น่าสนใจ