ภาพสตรีคลุมฮิญาบเป็นหนึ่งเดียว หลังครบ 7 วัน เหตุกราดยิงในมัสยิดนิวซีแลนด์ MUSLIMTHAIPOST

2652

ประมวลภาพสตรีคลุมฮิญาบเป็นหนึ่งเดียว หลังครบ 7 วัน เหตุกราดยิงในมัสยิดนิวซีแลนด์

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ภาพสตรีคลุมฮิญาบเป็นหนึ่งเดียว หลังครบ 7 วัน เหตุกราดยิงในมัสยิดนิวซีแลนด์

ประชาชนทั่วนิวซีแลนด์ ร่วมรับฟังเสียงอะซานละหมาดวันศุกร์ วันนี้ (22/03) เมื่อเวลา 13.30 (ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าในประเทศไทยราว 6 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวนิวซีแลนด์ ในโอกาสครบรอบ 7 วันเหตุการณ์สังหารโหดในมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช

นายกรัฐมนตรี เจซินด้า อาร์เดิร์น และประชาชนหลายพันคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะ Hagley Park ตรงข้ามมัสยิดอัล นูร ในไครสต์เชิร์ช เพื่อยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 2 นาที หลังเสร็จสิ้นการละหมาด เธอกล่าวว่า “นิวซีแลนด์ร่วมเศร้าสลดกับพวกคุณ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน”

ประชาชนที่ไม่ได้มาร่วมงานในสวนสาธารณะ ได้รับฟังและชมกิจกรรมที่เกิดขึ้นผ่านการถ่ายทอดทางวิทยุและโทรทัศน์ของทางการนิวซีแลนด์

เจ้าหน้าที่ได้ทำการปูพรมสีน้ำตาลอ่อนรอบพื้นที่กว้างใหญ่ของสวนสาธารณะ ซึ่งบรรดาชายมุสลิมได้ใช้นั่งเพื่อเตรียมการละหมาด พวกเขาสวมแต่ถุงเท้า หรือบางคนก็เท้าเปล่า ชายคนหนึ่งที่อยู่แถวหน้ายังนั่งอยู่ในรถเข็นของโรงพยาบาล

อิหม่าม กาม้าล ฟูดา แห่งมัสยิดอัล-นูร กล่าวขอบคุณนิวซีแลนด์สำหรับการสนับสนุนในช่วงเวลายากลำบาก และว่า “ผู้ก่อเหตุร้ายแสวงหาหนทางในการฉีก กระชากส่วนต่างๆ ของเราออกจากกันด้วยอุดมการณ์อันชั่วช้า แต่พวกเราได้แสดงให้เห็นว่า นิวซีแลนด์ไม่มีทางแตกออกจากกัน ถึงหัวใจจะแตกสลายแต่เราก็ไม่แตกแยก เรายังมีชีวิตอยู่และยังรวมกัน อย่างมั่นคงว่าจะไม่มีใครจะมาแยกพวกเราออกจากกันได้”

ช่วงบ่ายวันนี้ (22/03) มีพิธีฝังศพอีก 26 ศพ ที่สุสาน รวมทั้งศพเด็กชาย มูแคด อิบรอฮีม (Mucaad Ibrahim) วัย 3 ขวบ หลังจากในวันก่อนมีการฝังศพเหยื่อจากเหตุการณ์นี้ไปแล้วกว่า 12 ศพ

นายฟาฮีม อิมาม วัย 33 ปี จากเมืองอ๊อคแลนด์ เดินทางกลับมาร่วมละหมาดวันศุกร์ที่นี่ เขาเกิดและเติบโตที่เมืองไครสต์เชิร์ชแห่งนี้ แต่ได้ย้ายไปอยู่อ๊อคแลนด์เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เขากล่าวว่า รู้สึกอัศจรรย์ใจที่ได้เห็นว่า ทั้งประเทศและทุกชุมชนได้มารวมกัน และว่า เมื่อลงจากเครื่องบิน เขาเห็นคนถือป้ายที่เขียนว่า “ญะนาซะฮ์” พวกเขาจัดรถรับส่งฟรีทั้งไป และกลับจากที่ละหมาด

ฟาฮีม ยังกล่าวว่า เขาไม่รู้สึกภาคภูมิมากมายนักในความเป็นมุสลิมหรือเป็นชาวกีวี (นิวซีแลนด์) แต่ในครั้งนี้เขารู้สึกถึงความรักที่ท่วมท้น และมันทำให้เขามีความสุขอย่างแท้จริง ในการกล่าวว่า “ฉันเป็นชาวนิวซีแลนด์” และเขายังกล่าวว่า “มีความรู้สึกเหมือนฝันที่ได้เห็นมัสยิดที่เคยละหมาดประจำ เต็มไปด้วยดอกไม้”

ในวันนี้ นาย Smier Dandan ประธานสมาคมชาวมุสลิมเลบานอนในเมืองซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย และคณะผู้แทนของผู้นำมุสลิม 15 คน ได้เดินทางมายังไครสต์เชิร์ชเพื่อร่วมพิธี และกิจกรรมต่างๆ ด้วย