สำนักข่าวอาหรับได้คัดเลือกภาพยอดนิยมประจำสัปดาห์ จากภาพจำนวนหนึ่งที่ได้บันทึกจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในช่วงเดือนรอมฎอน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ชมภาพถ่ายเดือนรอมฎอนจากทั่วโลก (15-21 พฤษภาคม )
สำนักข่าวอาหรับได้คัดเลือกภาพยอดนิยมประจำสัปดาห์ จากภาพจำนวนหนึ่งที่ได้บันทึกจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในช่วงเดือนรอมฎอน
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอนภาพ 1 – มุสลิมชาวแคชเมียร์อ่านอัล-กุรอาน ที่อนุสรณ์สถาน ชี้ค อับดุล กอเดร กีลานี ในเมืองศรีนาคา
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 2 – ชายชาวเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน กับภาพสะท้อนในน้ำของเขา ขณะกำลังอาบน้ำละหมาดก่อนเข้ามัสยิด
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 3 – นักเรียนนายเรือกำลังรอเวลาละศีลอด ที่ท่าเรือคารากอย (Karakoy dock) กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 4 – อาบน้ำละหมาดแล้วต้องเติมเครื่องสำอาง สาว ๆ กำลังรอละหมาดญุมอัต ที่มัสยิดยาเมี๊ยะ ในกรุงไนโรบี เคนยา
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 5 – พ่อครัวชาวอินเดีย ในเมืองอะฮ์เมดาบัต กำลังทำขนมบาเยียไข่ (egg bhajias) – ไข่ต้มผ่าซีกชุบด้วยแป้งที่ทำจากมันฝรั่งกับถั่วลูกไก่
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 6 – มุสลิมในนคร Skopje ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศมาซิโดเนีย รวมตัวกันละศีลอดที่ตลาดเก่า Old Bazaar
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 7 – ครอบครัวชาวซีเรียไร้บ้านละศีลอดหน้าเต็นท์ที่พัก ที่ค่ายในหมู่บ้าน Atme ทางตอนเหนือของจังหวัดอิดลิบ ซีเรีย
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 8 – คนงานชาวอินเดียตากเส้นแป้งที่ทำจากหญ้าฝรั่น และนม ที่โรงงานในเมืองอะฮ์เมดาบัต เส้นแป้งที่ผสมด้วยหญ้าฝรั่น เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารในเดือนรอมฎอน และมีราคาแพงกว่าในช่วงอื่น ๆ ถึง 3 เท่า
ภาพถ่ายเดือนรอมฎอน ภาพ 9 – คนทำรองเท้าแตะ เตรียมสินค้าสำหรับขายก่อนถึงวันอีด ฟิตริ ในร้านที่เมืองเปชาวาร์ ประเทศปากีสถาน
- ปราจีนบุรี เปลี่ยนคอกหมูเป็นของมัสยิด
- ซาอุดีอาระเบีย จัดแข่งขันท่องจำอัล-กุรอาน และอะซาน เชิญชวนมุสลิมทั่วโลกเข้าร่วม
- อังกฤษจับชายยิงปืนใส่มัสยิด
- สันนิบาตมุสลิมโลกมอบชุดอาหาร 5 แสนชุดให้คนจนใน 28 ประเทศ
- รัฐมะละกาให้ความช่วยเหลือพิเศษแก่มุสลิมใหม่
- พรมปูละหมาด มัสยิดฮะรอม 400 ผืน ได้รับทำความสะอาดทุกวันในเดือนรอมฎอน (ชมภาพ)
- 10 ประเทศที่ถือศีลอดนานที่สุด
- 7 นักบอลมุสลิมถือศีลอด ขณะลงสนาม
- กษัตริย์ซัลมาน เรียกประชุมฉุกเฉินชาติอาหรับ หลังความตึงเครียดพุ่ง!
- ประกาศ วันหยุดราชการเนื่องวันอีฏิ้ลฟิตรี
ที่มา: www.arabnews.com