1 ใน 5 ของมุสลิมในมาเลเซีย มีความเชื่อว่า สามีมีสิทธิโดยชอบธรรมในการลงโทษ (ทุบตี) ภรรยา
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: 1 ใน 5 สตรีมุสลิมมาเลย์เชื่อ สามีมีสิทธิลงโทษภรรยา
ผลการสำรวจล่าสุดของกลุ่ม Sisters in Islam ซึ่งเป็นกลุ่ม NGO ในมาเลเซีย พบว่า ร้อยละ 21 หรือ ประมาณ 1 ใน 5 ของมุสลิมในมาเลเซีย มีความเชื่อว่า สามีมีสิทธิโดยชอบธรรมในการลงโทษ (ทุบตี) ภรรยา
กลุ่ม Sisters in Islam ได้ทวีตผลการสำรวจว่า ผู้หญิงมุสลิมได้รับการปลูกฝังตลอดมาให้เชื่อฟัง และต้องให้มุฟตีเป็นผู้ออกคำประกาศว่า พวกเธอที่ถูกทำร้ายหรือละเมิดโดยสามี (ในบ้านของตัวเอง) ได้รับอนุญาตให้ละทิ้งบ้านเรือนไปได้
การสำรวจดังกล่าวทำขึ้นโดยการสัมภาษณ์สตรีในมาเลเซีย 675 คน ซึ่งพบว่า ร้อยละ 70 ของผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ เชื่อว่า การมีภรรยาหลายคนเป็นสิทธิอันชอบธรรมของผู้ชาย อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 32 เท่านั้น ที่กล่าวว่า พวกเธอรับได้หากสิ่งนี้จะเกิดขึ้นหลังการแต่งงาน
ทวีตต่อมายังเปิดเผยว่า ร้อยละ 97 ของสตรีมุสลิมในมาเลเซีย ระบุว่า ความรับผิดชอบขั้นต้นในอิสลามของพวกเธอ คือ การเชื่อฟังพระเจ้า เกือบทั้งหมด หรือร้อยละ 96 ระบุว่า
การเชื่อฟังสามีเป็นความรับผิดชอบของพวกเธอ และร้อยละ 88 ระบุว่า การแต่งงานหมายถึงว่า พวกเธออยู่ภายใต้การดูแลของสามี
การศึกษาวิจัย ชื่อ “การรับรู้และความเป็นจริง: สิทธิส่วนบุคคลและสิทธิในส่วนสาธารณะของสตรีมุสลิมในมาเลเซีย” ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสหภาพยุโรป แสดงให้เห็นว่า มาเลเซียยังคงมีวิธีที่จะให้สตรีมุสลิมได้รับความเท่าเทียม ทั้งที่บ้านและในสังคม
รายงานของสื่อ South China Morning Post ระบุถึงรายงานดังกล่าว ว่า สตรีร้อยละ 32 มีความรู้สึกว่า พวกเธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ในชีวิตแต่งงาน (ความต้องการทางเพศขึ้นอยู่กับฝ่ายชาย)
สื่อดังกล่าวยังระบุว่า ร้อยละ 62 ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า การเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวของภรรยา หรือแม่ ยังไม่เป็นที่ยอมรับในมาเลเซีย
Sisters in Islam ยังระบุว่า การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้พบว่า สตรีมุสลิมมีความคิดว่า ความไม่เท่าเทียมกันเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทหน้าที่ในฐานะภรรยา พวกเธอถูกคาดหวังในการแบกรับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น (เพราะเป็นการทดสอบ) โดยไม่บ่น หรือร้องขอการเปลี่ยนแปลงสถานะ
Sisters in Islam ยังเรียกร้องการสร้างความเท่าเทียมในครอบครัว ให้เป็นที่ยอมรับภายใต้กฎหมายครอบครัวอิสลาม พวกเขากล่าวว่า “ความเท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงนำผลเชิงบวกมาสู่สมาชิกทุกคนในสังคม ... พัฒนาการล่าสุดพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การปฏิรูปกฎหมายสามารถเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่ในด้านสถานะของสตรีให้ดีขึ้น แต่ยังเปลี่ยนแนวคิดทางสังคมของมาเลเซียเกี่ยวกับสิทธิของสตรีอีกด้วย
มารีนา มหาธีร์ บุตรสาวของนายกรัฐมนตรี ดร.มหาธีร โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นนักรณรงค์และสมาชิกของกลุ่มนี้ มีความเห็นว่า การเชื่อมต่อระหว่างสิ่งที่สตรีมุสลิมคาดหวังและสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิต ถูกตัดขาดไป พวกเธอคิดว่า นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น โดยไม่ได้มองหาแนวทางอื่น ๆ
ที่มา: www.businessinsider.sg
http://news.muslimthaipost.com/news/33250
- เจ้าสาวมุสลิม เผยหน้าสดในวันแต่งงาน
- ตะลึง! แห่ขอวีซ่าเที่ยวซาอุฯ 24,000 ภายใน 10 วัน
- นายกปากีฯ ทวีต 3 ประเทศรวมหัวเปิดช่องทีวีอิสลาม
- ติดโพล 500 มุสลิมผู้ทรงอิทธิพลที่สุด 'มหาธีร์-อันวาร์-ไนก์'
- แห่ชื่นชม กษัตริย์มาเลเซีย ทรงเรียบง่าย ติดดิน เสวยร้านธรรมดาข้างทาง
- สุดยอดเมียรัก ให้สามีแต่งเพิ่มถึง 4 คน เหตุผลอึ้ง!(คลิป)