การที่มีกลุ่มองค์กรที่ใช้ชื่อว่า องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส) พร้อมด้วยชาวพุทธประมาณ 70 คน ชูป้าย ชาวมุกดาหาร ขอตรวจสอบความถูกต้อง การก่อสร้างมัสยิด
EP.01 ตอบข้อเรียกร้อง ต่อจุฬาราชมนตรี กรณีไม่เอามัสยิด
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : การที่มีกลุ่มองค์กรที่ใช้ชื่อว่า องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) นำโดย นายอัยย์ เพชรทอง เลขาธิการองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ พร้อมด้วยชาวพุทธประมาณ 70 คน ได้มาชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และได้ชูป้ายโดยมีข้อความว่า “ ชาวมุกดาหาร ขอตรวจสอบความถูกต้อง การก่อสร้างมัสยิด , ชาวมุกดาหาร ขออยู่อย่างสงบเราไม่ต้องการมัสยิด , ชาวชุมชนศรีพัฒนาไม่เอามัสยิด,ชาวมุกดาหารไม่เอามัสยิด ” เพื่อรอยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อจุฬาราชมนตรี โดยมีเลขาจุฬาราชมนตรี เป็นผู้หนังสือดังกล่าว
ข้อเสนอ หลายมีหลายข้อด้วยกัน แต่ส่วนมาก ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการต่อต้านมัสยิดมากนัก จึงจะขอตอบข้อเรียกร้องเป็นข้อๆดังนี้...
1. ขอให้ช่วยปรามกลุ่มก่อการร้าย BRN , RKK และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆให้หยุดการกระทำที่โหดเหี้ยมทุกกรณีในทันที
ตอบ...ก่อนอื่นขอให่กลุ่มที่ยื่นหนังสือถึงท่านจุฬาราชมนตรี ได้ไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่อธิบายเหตุการณ์ในสามจังหวัด ซึ่งเขียนโดยชาวพุทธเอง นั้นคือหนังสือที่ชื่อ "ดับฝันมายาวี" ที่อธิบายปรากฎการณ์ในสามจังหวัดชายแดน กลุ่มก่อการร้าย BRN , RKK ได้อย่างดี แต่ไม่ต้องยัดข้อหาให้ผู้เขียนว่าเป็นมุสลิมก็กันนะครับ
การจะให้จุฬาราชมนตรี ช่วยปรามกลุ่มก่อการร้าย BRN , RKK และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ สมมุติท่านจุฬาราชมนตรี ทำเรื่องนี้สำเร็จ จะแสดงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจุฬาราชมนตรีอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่...??? ถ้าท่านจุฬาราชมนตรีรับปาก จะเข้าทางพวกคุณใช่หรือไม่..???
ในความเป็นจริง BRN , RKK และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ เป็นข้อพิพาทมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2. ที่มหาอำนาจอังกฤษ มีสัญญากับมลายูเสรี มันเกี่ยวข้องกับเรื่องดินแดน และชาติพันธุ์ พูดง่ายๆเป็นปัญหาความมั่นคง เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งใครๆก็รู้ว่ามันมีที่ไปที่มาอย่างไร
ส่วนจุฬาราชมนตรี เป็นประมุขของศาสนาอิสลาม ไม่ได้มีหน้าที่ในการปราบปราม ไม่ใช่ฝ่ายความมั่นคง จุฬาราชมนตรี ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลังพล
สมมุติจะให้ท่านจุฬาราชมนตรี ไปปราบกลุ่มที่ว่า ปัญหาคือกลุ่มที่ว่านั้นอยู่ไหน ขนาดหน่วยความมั่นคงมีการเจรจา ยังไม่รู้ว่าเจรจากับใคร ใช่ตัวจริงหรือไม่ ขณะเจรจา ยังมีการยิง การวางระเบิดอยู่
ถ้าท่านจุฬาราชมนตรีรับปากว่าจะไปห้ามปรามกลุ่มเหล่านี้ ก็เข้าทาง กลายเป็นว่าท่านรู้เรื่องนี้...
ส่วนกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ก็ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง ส่วนมากที่รับฟังมาก็จะมีกลุ่มอิทธิพลมืด ที่มีผลประโยชน์กับเรื่องของเถื่อนผิดกฎหมาย และยาเสพติด เรื่องนี้จะให้ท่านจุฬาราชมนตรีไปปราบคงเกินหน้าที่ และทำไม่ได้
ฉะนั้นข้อเรียกร้องในข้อแรก คงต้องโยนกลับไปที่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่มีอำนาจ กำลังพล กำลังอาวุธ
เอากันจริงๆ ต้องให้นายอัยย์ เพชรทอง เลขาธิการองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ และพรรคพวก ลงไปฝังตัวอยู่ในพื้นที่จริง จะได้รับรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น ที่สำคัญจะได้รับรู้ว่าคนพื้นที่ก็เบื่อเอือมระอาเต็มทนแล้ว กับเหตุการณ์ฆ่ากันรายวัน
จะได้รู้ว่าการฆ่าที่เกิดขึ้น และไม่เป็นข่าว เกิดขึ้นกับมุสลิมเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เป็นข่าวโด่งดังจะเกิดขึ้นแบบดังเป็นพิเศษต่อเมื่อชาวพุทธถูกฆ่า
ทุกครั้งที่เกิดเหตุความไม่สงบ ชาวบ้านก็สงสัยเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐก็สงสัยขบวนการ แต่เวลาจับกุ่มก็มักจะได้แต่ชาวบ้าน...ทำน้องนักเรียนช่างกลตีกัน ส่วนมากคู่อริมักไม่โดน แต่ผู้บริสุทธิมักจะโดน เพราะไม่ได้ระวังตัว ก็ตัวเองคิดว่าไม่ได้มีเรื่องกับใคร
มุสลิมเองก็ไม่ได้การันตี-รับรองว่าคนมุสลิมทุกคนจะบริสุทธิผุดผ่องไปทุกคน เหมือนๆกับคนทั้งหลาย คนดี คนชั่ว คนเลว มันก็ปะปนกันไป ใครจะไปรู้ว่า ใครขายยาบ้า ใครค้าของเถื่อน คนทำชั่ว มันก็ไม่ได้ติดเครื่องหมายที่จะบ่งบอกว่าเขาคือคนทำความชั่ว
ในทุกศาสนา ทุกความเชื่อ ทุกชาติพันธุ์ มีคนดี-คนเลวปะปนกันอยู่ แต่ในทุกๆศาสนา-ความเชื่อ มีคนดีมากกว่าคนเลวอยู่แล้ว
จะเอาข้อเรียกร้องนี้มาแลกกับการสร้างมัสยิด มันคนละเรื่องกัน และมัสยิดทุกแห่งก็เป็นเพียงสถานที่ประกอบศาสนกิจ ตามหลักการของศาสนา ภารกิจ ก็ไม่ต่างไปจากวัด คือเป็นสถานที่ให้คนมาทำความดี
แต่หากมัสยิดจะมีคนเลวคนได้แฝงเข้ามา ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมื่อจัดการได้ มัสยิดก็มีตู้บริจาค สิ่งของหายบ่อยๆ ก็ไม่ต่างจากวัดที่บางครั้งโจรมันยกตู้รับบริจาคหนีไปทั้งตู้ และโจรดังกล่าวก็ไม่ใช่คนมุสลิม..???
ถ้าจะบอกว่ามีมัสยิด จะมีผู้ร้าย ก็ถามว่า มีวัดมันก็ยังมีคนทำผิดอยู่ ทั้งวัด และมัสยิด ไม่ใช่สถานที่บ่มเพาะคนชั่ว แต่คนชั่วมันมีของมันเอง หากคนนั้นไม่อยู่ในหลักการของศาสนาแต่ละศาสนา
หากจะบอกว่ามีมัสยิด จะเกิดความวุ่นวาย เท่าที่ทราบไม่ปรากฎว่ามีมัสยิดแล้วจะต้องไปทะเลาะกับใคร บางมัสยิด ตั้งใกล้ๆชุมชนพุทธ ก็ไม่เห็นว่ามีมัสยิด จะต้องมีสงคราม หรือวุ่นวาย ที่ท่านเห็นทะเลาะกัน มันน่าจะเป็นเรื่องภายในกันมากกว่า เวลาเลือกตำแหน่งต่างๆของมัสยิด ซึ่งก็ไม่ใช่ จะต้องยกพวกไปตีรันฟันแทงกับใคร
ก่อนที่จะให้ท่านจุฬาราชมนตรี ไปปราบกลุ่ม BRN , RKK และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงต่างๆ แนะนำท่านผู้เรียกร้องไปอ่านหนังสือ "ดับฝันมายาวี"กันก่อน คิดว่าตอนนี้น่าจะวางทั่วประเทศแล้วมั้ง
แต่ถ้าท่านจะเล่นเกมส์กดดันมุสลิม เพื่อให้รัฐหันมาปราบ จับกุมพวกตน จากนั้นนำเป็นข้ออ้างว่า รัฐรังแกชาวพุทธ แต่ไม่ยอมจัดการมุสลิม โดยมีอีแอบการเมืองหนุนหลัง
เรื่องนี้ "เปราะบางนะครับ"
คอลัมน์นิส อับดุลกอเดร มัสแหละ