ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เตรียมเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการก่อสร้างมัสยิดกลางน้ำแห่งแรกในประเทศไทย เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ
'นราธิวาส' เสนอสร้างมัสยิดกลางน้ำแห่งแรกของไทย
ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เตรียมเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการก่อสร้างมัสยิดกลางน้ำแห่งแรกในประเทศไทย เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาสมีประชากร กว่า 808,000 คน ในจำนวนนี้เป็นพี่น้องนับถือศาสนาอิสลามถึง 82 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแต่ละชุมชนก็จะมีมัสยิดสำหรับประกอบศาสนกิจ
ส่งผลให้ปัจจุบันในพื้นที่มีมัสยิดที่อยู่ในการกำกับดูแลถึง 675 แห่ง และมีการจัดประชุมคณะกรรมการประจำมัสยิดทุกเดือน
ประกอบกับมีหน่วยงานภายนอกเข้ามาใช้บริการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สำนักงานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอบรม ประชุม หรือสัมมนา แต่ด้วยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส มีเพียงอาคารสำนักงาน 1 หลัง และอาคารหอประชุมบรมราชกุมารีอีก 1 หลัง ที่สามารถรองรับได้ประมาณ 1,000 คน
แต่ปัญหา คือ ไม่มีสถานที่ละหมาด จึงได้มีโครงการก่อสร้างมัสยิดขึ้นในบริเวณเดียวกับอาคารสำนักงานฯ ลักษณะการออกแบบเป็นมัสยิดกลางน้ำ ที่มีความร่มรื่นและสงบ ดำเนินการก่อสร้างมากว่า 6 ปีแล้ว ด้วยงบประมาณจากเงินบริจาคของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันตัวอาคารมัสยิดแล้วเสร็จไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และยังขาดงบประมาณในการก่อสร้างอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในครั้งนี้ จึงได้เตรียมเสนอของบสนับสนุนการก่อสร้างมัสยิดดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ที่อยากให้มีสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ
ด้าน นายสะไฮมี มะเกะ กรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดนราธิวาส บอกว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้มาติดต่องานที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส จะใช้พื้นที่ห้องทำงาน หรือริมระเบียงในการปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งถือว่าไม่ค่อยสะดวกนัก ดังนั้น หากมีสถานที่ประกอบศาสนกิจที่เป็นสัดส่วน สามารถประกอบศาสนกิจพร้อม ๆ กันได้ โดยเฉพาะการละหมาดยุมอัตในวันศุกร์ ที่มุสลิมต้องปฏิบัติพร้อมกันก็จะยิ่งดี เพราะจะได้ไม่ต้องเดินทางไปละหมาดที่อื่น
ซึ่งหากสร้างเสร็จจะอำนวยประโยชน์อย่างมาก ที่สำคัญยังสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว ดึงดูดผู้คนเข้ามาสัมผัสธรรมชาติ และความสวยงามของมัสยิดกลางน้ำแห่งเดียวในประเทศไทย อันจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจังหวัด อีกด้วย
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ ที่จะเดินทางมาพบปะกับพี่น้องมุสลิม ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสนั้น ขณะนี้ ได้มีการเตรียมการไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสถานที่ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นด้วยความเรียบร้อย
ที่มา:thainews.prd.go.th
ภาพจาก: www.museumthailand.com