จัดเสวนา "มุมมองรอบด้านต่อโครงการนิคมอุตสาหกรรม "จะนะ" " ประกอบด้วยนักวิชาการและผู้นำชุมชน 11คน เสวนาเปิดโปงโครงการอุตสาหกรรมจะนะเมืองต้นแบบพร้อมคัดค้านให้ยุติโครงการ
ค้านเมืองอุตสาหกรรมจะนะ 11 นักวิชาการ เปิดโปงให้ยุติโครงการ!
คณะนิติศาสตร์ม.สงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะนักวิชาการจัดเสวนา "มุมมองรอบด้านต่อโครงการนิคมอุตสาหกรรม "จะนะ" " ประกอบด้วยนักวิชาการและผู้นำชุมชน 11คน เสวนาเปิดโปงโครงการอุตสาหกรรมจะนะเมืองต้นแบบพร้อมคัดค้านให้ยุติโครงการ
ชี้ว่า เป็นการพัฒนาและการเริ่มโครงการใหม่ที่ไม่มีเหตุผลมีการส่อการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล เกิดผลกระทบต่อประชาชน ในแง่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตวัฒนธรรมและศาสนา เปลี่ยนผังเมืองจากสีเขียวให้เป็นสีม่วง มีการให้ข้อมูลที่ไม่รอบด้าน ใส่ข้อมูลด้านเดียวให้กลุ่มมวลชนผู้สนับสนุน เอื้อต่อนายทุนใหญ่ ไม่ให้ประโยชน์กับประชาชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยเฉพาะวันที่ 11 ก.ค. มีการจัดเวทีที่ไม่ชอบธรรม อาจส่งผลให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในอนาคตในเวทีได้ชี้แจงอีกว่าโครงการให้เกิดความขัดแย้งมาแล้ว โครงการใหญ่ขนาดนี้จึงต้องการให้มีการศึกษาให้รอบคอบทุกด้าน ก่อนที่จะดำเนินการผลักดันต่อไปมีผู้ได้ส่วนได้ส่วนเสียอย่างไร ต้องเปิดให้ชัดเจนนโยบายการพัฒนาอย่างนี้อาจจะนำไปสู่หายนะ หากขาดการปรึกษาแบบประชาธิปไตย เผยด้านความสมบูรณ์ของ อ.จะนะ
อ.เกื้อ ฤทธิบูรณ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่า เป็นการอ้างของรัฐ หากจะมีการพัฒนา จะเปลี่ยนธรรมชาติให้เปลี่ยนไปและจ้างแรงงานคนในพื้นที่กว่าแสนตำแหน่ง
"บริบทของคนจะนะยังต้องพึ่งพิงธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศเป็นการให้บริการ คุณภาพชีวิตที่ดีและมากกว่า นี้่คือชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนอยู่แล้ว มันมีมูลค่ามากกว่าทางเศรษฐกิจ ตามที่มนุษย์จะคิดได้ หากเราจะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลับไปเป็นป่าชายเลนสักแห่ง ต้องใช้ทรัพยาการมากถึง 3 เท่า เราจะพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ โดยทำลายและเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ไปเพื่ออะไรหากระบบเสียหายไปแล้ว เราจะเอาคืนไม่ได้ จึงขอให้ ศอ.บต.หยุดการตั้งเวทีวันที่ 11 นี้ก่อน เพื่อให้มีการเปิดรับฟัง และมีเหตุผลฟังเสียงประชาชนเพื่อนำมาหาทางออกคุยกันก่อน
เพื่อความเป็นธรรมและดีต่อการพัฒนาอย่างแท้จริง ท่าเรือที่เกิดขึ้น จะทำลายชีวิตวิถีชาวประมงดั้งเดิม และ ปัญหาคลื่นกัดเชาะชายฝั่งเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก มีโครงการท่าเรือน้ำลึกที่ผ่านมา เกิดแรงลบตามมา สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นตามมา มีผลประโยชน์ที่อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งตามมา จึงควรให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ควรสร้างวาทกรรม ไม่ควรแยกกลุ่มคนออกจากกัน การห้ามคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ ความรุนแรงและความขัดแย้งครั้งนี้อาจรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว ต้องสร้างการพูดคุยสู่โต้ะเจรจา
การให้ข้อมูลที่ต้องให้ความเชื่อมั่นของข้อมูลของทั้งสองฝ่าย หากมีการเชื่อมั่นข้อมูลที่ยันกันทั้งสองข้างได้ เผยข้อมูลข้อมูลองค์ความรู้ 2 ฝ่ายเท่าเทียมกัน ความต้องการต้องไม่สร้างความรังเกียจกัน
อนาคตจะนำมาสู่ความขัดแย้งไม่รู้จบ ต้องมีการตั้งโจทย์ร่วมกัน มีคำตอบที่ชัดเจน ให้นำไปสู่พลังแห่งการตัดสินใจร่วมกันเช่นผลตอบแทนการจ้างงาน เท่าไหร่ ใครได้ ใครเสีย ต้องให้ข้อมูลที่จริง ให้ผลประโยชน์รัฐต้องคุยให้ชัดเจน มีการให้ความยั่งยืนอย่างไร การตอบแทนด้านทรัพยากร ด้านวัฒนธรรมวิถีชีวิต หาทางปรึกษาหารือเพื่อได้ทางเลือกที่เป็นของพลังทางเลือกทั้งหมดร่วมกัน"
อ.บัณฑิต ไกรวิจิตร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี เปิดเผยว่า...
ประเด็นแรก คือ ในเมื่อโครงการนี้ ดำเนินการผิดตั้งแต่แรก โดยอดีตนายกรัฐมนตรีอนุมัติโครงการตั้งแต่ต้น มาถึงนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ดำเนินการต่อ จึงต้องไปแก้กันที่การยกเลิกครม.ฉบับนี้ก่อน ถ้าผลักดันต่อไปโดย ศอ.บต. จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงต่อไปในอนาคตไม่รู้จบ "มีการทำไอโอ เชื่อมโยงว่ากลุ่มต่อต้านเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐฯ ไปอยู่ในกลุ่มขบวนการ BRN ซึ่งผมเคยโดนมาก่อน ขณะนี้ถูกนำไปสู่ชาวบ้านจะนะะว่าเป็นกลุ่มคนต่อต้าน เป็นกลุ่มเดียวกับ BRN เมื่อโครงการมันผิดตั้งแต่เริ่ม เราไม่ได้ต่อต้านแต่ให้หยุด และขอให้ถอยกลับมา หันกลับมาพิจารณาก่อน มีการอ้างตัวเลขเกินจริง จากบทเรียนโรงไฟฟ้าจะนะ ที่เคยจ้างคนในพื้นที่ทำงานและเอาออกในเวลาต่อมาคนจะนะดั้งเดิม มีการพัฒนาตนเองปรับตัวมาทางธรรมชาติมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ไม่ควรไปทำลายวัฒนธรรมท้องถิ่นของเขา อาจต้องบัญญัติคำเรียกใหม่ จากชาวประมง ชาวสวนเป็นชาวโรงงานเหมาะสมแล้วหรือ ต่อไปหากมีโครงการนิคมฯจะนะ เราจะมีความสุขเหมือนเดิมไหม มันมีความจำเป็นไหมที่จะพัฒนาประเทศไปข้างหน้าแล้วมีคนใดคนหนึ่งมีความทุกข์
วันนี้ผมขอเรียกร้อง ศอ.บต.ควรยุติบทบาทหน้าที่ต่อเรื่องนี้ ควรสร้างสันติภาพในพื้นที่ ไม่ควเป็นผู้รสร้างเชื้อไฟก่อให้เกิดความรุนแรงเอง ต้องระงับโครงการนี้และกลับไปศึกษาต่อเรื่องนี้ มาออกแบบ หาทางออกอย่างรอบด้าน และขอร้องให้หยุดการให้ข้อมูลไอโอที่ใส่ใคล้ กับกลุ่มคนที่ต่อต้านด้วย
ด้านที่เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องบางมาตรา อ.ธีรวัฒน์ ขวัญใจ คณะนิติศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ
ประเด็นที่ 1 การวางกฎหมายวางผังเมือง จากเอกสารที่ ศอ.บต.ให้ไว้ น.62-90 เป็นเอกสารที่เรียกว่า การวางผังเมืองและการคมนาคมขนส่ง ภายใต้กฎหมายผังเมือง ผู้รับผิดชอบคือกรมโยธาธิการและผังเมือง กับศอ.บต. มันเกี่ยวข้องอย่างไร แท้จริงแล้วคือการกำหนดผังเมืองใหม่ ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว และอยากทราบว่ามันเป็นแบบร่างหรือถูกกำหนดประกาศมาใช้แล้วหรือยัง ถ้าเป็นไปตามผังเมืองเดิมแล้ว ไม่สามารถเป็นเขตอุตสาหกรรมได้แต่มีกำหนดข้อยกเว้นว่า หากมีข้อพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การดำเนินการเรื่องนี้ มีการแสดงข้อมูลวิชาการไม่สอดคล้องกับวิชาการผังเมืองพื้นที่ถูกกันไว้ 50% ถูกปรับเป็นสีม่วง พื้นที่ที่เหลือ ถูกมองข้ามไป
ประเด็นที่ 2 ภายใต้ขอบข่ายสิ่งแวดล้อม ทำไมไม่ใช้คำกำหนดนิคมอุตสาหกรรม เพราะการพัฒนาจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายการพัฒนาของการสร้างนิคม อยู่ภายใต้พรบ.นิคมฯ การสร้างประชาคม EIA และ EHIA หรือการทำเฉพาะไม่มีการมองผลกระทบในภาพรวมว่าเป็นอย่างไร
ประเด็นที่ 3 ใครมีส่วนร่วม ใครได้ใครเสีย ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดแบบไหน การมองที่ผลประโยชน์การมองเรื่องสิทธิชุมชน ทุกคนควรมีสิทธิ์ในการร่วมกันตั้งข้อสังเกตุและหาทางออกให้ครบถ้วนรอบด้าน ถ้ามีแล้วดีอย่างไร เสียอย่างไร การแก้ไขปัญหา การมีมาตรการแก้ปัญหาที่ตั้งไว้แล้ว เวทีวันที่ 11 นี้ ทำไมไม่เปิดให้คนจะนะในพื้นที่อื่นเข้าด้วย ให้เพียงคนในชุมชน 3 ตำบลเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นหากมีการตั้งเวทีคู่ขนานได้หรือไม่ ภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน และนอกจากนี้ยังมีมิติทางกฎหมายอีกหลายจุดที่ยังดูทะแม่งอยู่ ศอ.บต. ยังแยกตัวให้ออกจากบริบททางการเมืองไม่ได้ ต้องทำหน้าที่รับใช้อำนาจของรัฐบาลดดยไม่ฟังเหตุผลแท้จริง
ที่มา: siamrath.co.th