รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเดนมาร์ก เชิญเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเดนมาร์กเข้าพบเพื่อชี้แจง กรณีที่มีรายงานว่า สถานทูตอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงกฎหมายการหย่าร้างของเดนมาร์ก
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: นายก รมต.เดนมาร์กเคือง! ให้หญิงมุสลิมใช้ชาริอะฮ์หย่าร้าง
Jeppe Kofod รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเดนมาร์ก เชิญเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเดนมาร์กเข้าพบเพื่อชี้แจง กรณีที่มีรายงานว่า สถานทูตอิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงกฎหมายการหย่าร้างของเดนมาร์ก
รายงานระบุว่า หญิงมุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ถูกบีบให้ต้องยอมรับสัญญาการหย่าร้างที่ทำขึ้นตามกฎหมายชาริอะฮ์ โดยเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา มีข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ว่า อิหม่ามในเขต Odense ถูกร้องเรียนในเรื่องที่เกี่ยวกับการนำกฎหมายชาริอะฮ์มาบังคับใช้กับหญิงรายหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายนี้ เธอจะเสียสิทธิ์ในการเป็นแม่หากเธอเลือกที่จะแต่งงานใหม่ หรือประพฤติตัวในทางที่ละเมิดเกียรติของตนเอง หรือครอบครัว
รัฐมนตรีกระทรวงกิจการคนเข้าเมือง กล่าวกับสื่อว่า มีความจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นมือ เพราะอิหม่ามไม่ควรนำกฎหมายชาริอะฮ์เข้ามาแทรกแซงการใช้กฎหมายหลักของเดนมาร์ก เขาเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงกฎหมายจะช่วยเรื่องนี้ได้ โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะปราบปรามการปฏิบัติดังกล่าว ด้วยการกำหนดโทษจำคุกนานถึง 3 ปี สำหรับอิหม่ามที่เข้ามาแทรกแซงการใช้กฎหมายหย่าร้างของเดนมาร์ก รวมทั้งตั้งใจที่จะออกกฎหมายขยายการลงโทษ สำหรับ ความรุนแรงที่กระทำต่อจิตใจ ซึ่งสมาชิกในครอบครัวที่มีส่วนร่วมในการกระทำความรุนแรงดังกล่าว จะได้รับโทษด้วย
ในขณะที่พรรคการเมืองหลายพรรคพร้อมที่จะสนับสนุนการออกกฎหมายนี้ ฮาลิมา เอล อับบาสซี โฆษกหญิงของสภาชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย (Council of Ethnic Minorities – REM) กล่าวว่า การลงโทษที่เข้มงวดจะผลักดันผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่หนทางที่มืดมนขึ้น และว่า เหตุใดนักการเมืองจึงต้องการออกกฎหมายเฉพาะเจาะจงมาที่ชาวมุสลิม และเธอคิดว่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีทางเลือกอื่นสำหรับสัญญาหย่าร้างแบบชาริอะฮ์หรือไม่
ในขณะที่ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก Mette Frederiksen กล่าวเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ว่า กฎหมายชาริอะฮ์เป็นสิ่งผิด และไม่สามารถนำมาใช้ในเดนมาร์กได้ แต่ชาวมุสลิมเดนมาร์กหลายคนไม่เห็นด้วย
จากการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า ชาวมุสลิมเดนมาร์ก 4 ใน 10 คน ต้องการให้นำกฎหมายชาริอะฮ์มาใช้ แม้เพียงบางส่วนก็ยังดี ในขณะที่กว่าร้อยละ 10 ของชาวมุสลิมเดนมาร์ก กล่าวว่า กฎหมายประจำชาติควรตั้งอยู่บนหลักชาริอะฮ์เพียงอย่างเดียว
ยิ่งกว่านั้น รายงานของกระทรวงยุติธรรมเดนมาร์ก ยังระบุว่า มุสลิมเดนมาร์ก เกือบ 8 ใน 10 คน ต้องการให้มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อิสลาม
ที่มา: www.sputniknews.com
http://news.muslimthaipost.com/news/34559
- มุสลิมในสหรัฐฯ ถูกข่มขู่-ขับไล่จากพวกสุดโต่ง
- อดีตราชาธิบดีมาเลเซีย ยันลูกชายต้อง 'เลี้ยงดูเป็นมุสลิม' แต่ต้องไม่เรียกร้องสิทธิ์อื่น
- อุลามะอฺฟัตวา ห้ามเล่นเกมส์ PUBG เพราะ?
- นักคริกเก็ตมุสลิม ยอมถูกปรับ แต่ไม่ยอมสวมเสื้อที่มีโลโก้ฮะรอม
- มัสยิดในลอนดอน เหตุใดเพิ่มขึ้นเกือบ 500 แห่ง
- โบสถ์ 500 แห่งในลอนดอนถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด