ชาวสิงคโปร์ วัย 65 ปี ที่เข้ารับอิสลามเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ต้องอยู่ห่างจากภรรยาชาวมาเลเซียเป็นเวลาเกือบ 1 ปี เนื่องจากมาตรการปิดล็อคประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำนักข่าวมุสลิมไทยโสต์: จุดยืนอันมั่นคง ทำงานเพื่ออัลลอฮ์ กตัญญูกับมารดาต่างศาสนา
Hidayat Ngay ชาวสิงคโปร์ วัย 65 ปี ที่เข้ารับอิสลามเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ต้องอยู่ห่างจากภรรยาชาวมาเลเซียเป็นเวลาเกือบ 1 ปี เนื่องจากมาตรการปิดล็อคประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อถามถึงเรื่องนี้ เขากลับตอบอย่างรวดเร็วว่า “อัลลอฮ์เป็นนักวางแผนที่ดีที่สุด”
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเพิ่งได้รับการอนุมัติจากทางการมาเลเซียให้เดินทางเข้าประเทศได้ แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ยากเมื่อวันตรุษจีนใกล้มาถึง และมารดาวัย 97 ปี ต้องการให้เขาอยู่ด้วยในช่วงนี้ ซึ่งเขาต้องเลือกระหว่างการกลับไปหาภรรยาที่เมืองชาห์ อาลัม รัฐสลังงอ หรือจะใช้เวลาในช่วงตรุษจีนร่วมกับมารดาในบูกิต ติมาห์ ในสิงคโปร์
Hidayat Ngay
ภรรยาของเขาเป็นผู้ทำลายทางตันนี้ เมื่อเธอแนะนำว่า เขาควรจะใช้เวลาช่วงตรุษจีนอยู่กับมารดา แล้วค่อยเดินทางกลับมา ซึ่งต่างจาก 4 ปีก่อนที่จะเกิดโรคระบาด ที่เขาจะฉลองตรุษจีนในชาห์ อาลัม ซึ่งมีการจัดฉลองถึง 15 วัน หลังจากนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่สิงคโปร์
เมื่อทางการมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ฮิดายัต ซึ่งย้ายไปอยู่กับภรรยาที่ชาห์ อาลัม ตั้งแต่ 4 ปีก่อน ต้องเดินทางกลับสิงคโปร์ลำพัง เนื่องจากเขายังไม่ได้รับวีซ่าให้อยู่อาศัยในระยะยาว
ฮิดายัต กล่าวว่า “อัลฮัมดุลิลละฮ์ ภรรยาของผมเข้าใจผมมาก เพราะเธอไม่ได้บังคับให้ผมต้องรีบกลับไป แต่เธอกลับบอกให้อยู่กับแม่ก่อนแล้วค่อยกลับมา เพื่อมาร่วมถือศีลอดและฉลองวันฮารีรายอ หลังจากนั้น”
ฮิดายัต เป็นหนึ่งในอาสาสมัครชาวสิงคโปร์ ที่ร่วมเตรียมอาหารสำหรับชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ที่นี่ โดยเขาเข้าร่วมกลุ่มทันทีเมื่อกลับไปถึงสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มนี้มีสโลแกนว่า “จากอุมมะฮ์ สู่อุมมะฮ์ – From Ummah For Mummah” และทำการแจกจ่ายอาหารวันละประมาณ 1,000 ชุด หรือมากกว่า 180,000 ชุด นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา
เมื่อถูกถามว่า เหนื่อยกับการทำงานเป็นอาสาสมัครหรือไม่ (เพราะเขาอายุค่อนข้างมากแล้ว) ฮิดายัต คุณพ่อที่มีลูกวัย 5 ขวบ ตอบว่า
“เราพยายามทำงานเพื่อหวังการตอบแทนจากอัลลอฮ์ ฉันแค่ขอดุอาอฺ ให้พระองค์ทรงพอใจในการงานของฉัน เมื่อถึงเวลาฉันจะได้ไปอยู่กับพระองค์”
ฮิดายัต รู้สึกขอบคุณที่เขาได้รับอนุญาตให้กลับไปมาเลเซีย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกพูดไม่ออก บอกไม่ถูก เมื่อจะต้องจากกับเพื่อน ๆ อาสาสมัครในกลุ่ม หลังจากทำงานด้วยกันมาเกือบ 1 ปี
“ฉันขอบคุณอัลลอฮ์ ที่ให้โอกาสฉันได้รู้จักกับพวกเขา และให้ฉันได้มีโอกาสทำงานร่วมกันเพื่อสังคม”
เขายังกล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่เขาได้มาอยู่ที่นี่ในเดือนรอมฎอน ปีที่แล้ว เพราะเป็นปีที่ค่อนข้างวุ่นวายสำหรับเดือนรอมฎอนในช่วงเกิดโรคระบาด ที่ไม่เคยมีใครมีประสบการณ์มาก่อน
“แต่ในปีนี้ ฉันคงต้องใช้เวลาเดือนรอมฎอนที่มาเลเซีย และจะต้องพลาดกิจกรรมต่อเนื่องที่ได้ทำในปีที่ผ่านมา”
อาสาสมัครกลุ่มนี้มีสมาชิก 11 คน และฮิดายัตเป็นสมาชิกคนที่ 9 ที่อยู่ในจูร่ง เขาเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่แก่ชราของเขาเกือบทุกสัปดาห์ เมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา มารดาของเขาให้พรอันน่าชื่นใจแก่เขาเมื่อเขาบอกเธอว่า เขาจะเข้ารับอิสลาม
ที่มา: www.bernama.com
http://news.muslimthaipost.com/news/34962
- ความท้าทายหญิงเชื้อสายจีน เมื่อต้องแต่งงานกับชายคนรักที่เป็นมุสลิม
- นักร้องหญิงคูเวตประกาศทิ้งอิสลาม
- บล็อกเกอร์ชื่อดัง ชาวเยอรมัน เข้ารับอิสลาม
- ปูด! สถิติเข้ารับอิสลามใหม่ในบรูไนเพิ่มขึ้น
- หัวใจนางฟ้า! ซาน่า คาน ดารามุสลิมอินเดียอำลาวงการ กลับสู่ศาสนา
- แพรเข้ารับอิสลาม แต่..ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ญาติพี่น้องยังคงเหมือนเดิม
- คู่สามีภรรยาเซอร์เบีย เข้ารับอิสลามทั้งครอบครัว
- รู้หรือไม่ คนเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ปีละกี่หมื่น-แสนคนทั่วโลก