อิสราเอลสั่งห้ามมุสลิมละหมาดที่มัสยิดอิบรอฮีมี ในเมืองเฮบรอน ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์ โดยอ้างว่า
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: อิสราเอลห้ามมุสลิมละหมาดที่ มัสยิดอิบรอฮีมี นี่คือข้ออ้าง!
เฮบรอน – วันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา อิสราเอลสั่งห้ามมุสลิมละหมาดที่มัสยิดอิบรอฮีมี ในเมืองเฮบรอน ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์ โดยอ้างว่า เนื่องจากเป็นช่วงวันปีใหม่ของชาวยิว และจะอนุญาตให้เฉพาะชาวยิวเข้าได้เท่านั้น
ชี้ค ฮัฟซี อะบู สนัยนะฮ์ ผู้อำนวยการมัสยิดอิบรอฮีมี กล่าวกับสื่อว่า กองกำลังอิสราเอลปฏิเสธไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เข้าไปภายในมัสยิด รวมทั้งห้ามการละหมาดที่ลานมัสยิด ขณะที่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิวกำลังเตรียมการเพื่อพิธีเทศกาลปีใหม่ยิว
- อิสราเอลเริ่มสร้าง'ลิฟต์-ทางเดิน'ที่มัสยิดอิบรอฮีมี
- ไม่ปลอดภัย! นักข่าววอนออกวีซ่าให้ชาวอัฟกันที่ช่วยทัพสหรัฐฯ
- ทหารยิวเหิมหนัก! บุกมัสยิดห้ามละหมาด-หยุดบูรณะ
อะหมัด ตามีมี สมาชิกคณะกรรมการบริหารองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ซึ่งดูแลด้านสิทธิมนุษยชน ประณามการปิดมัสยิดครั้งนี้ ว่าเป็นการดูหมิ่นความรู้สึกของชาวอาหรับและมุสลิมอย่างชัดแจ้ง เป็นการละเมิดเสรีภาพในการปฏิบัติศาสนกิจอย่างร้ายแรง และยังละเมิดกฎบัตรและอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
ในอดีต มัสยิดอิบรอฮีมีเป็นศาสนสถานเฉพาะของชาวมุสลิม แต่เมื่อ 22 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงมุสลิมในมัสยิดในเดือนรอมฎอน โดยผู้ก่อเหตุคือ นายบารุช โกลด์สไตน์ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 29 ราย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น แทนที่อิสราเอลจะลงโทษโดยขับไล่ชาวยิวที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมายในเฮบรอน กลับกลายเป็นว่าอิสราเอลจัดการให้แบ่งมัสยิดออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนสำหรับประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม และชาวยิว รวมทั้งสั่งห้ามชาวปาเลสไตน์เปิดทำธุรกิจ ขายสินค้า ของที่ระลึก ในเขตเมืองเก่าเฮบรอน รวมทั้งจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ แต่กลับให้ชาวยิวมาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา: www.english.wafa.ps