แอมเนสตี้สากลออกมากล่าวหา เทลอาวีฟของนโยบายการแบ่งแยกเชื้อชาติ ที่ปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์
แอมเนสตี้สากลออกมากล่าวหา เทลอาวีฟของนโยบายการแบ่งแยกเชื้อชาติ ที่ปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า แอมเนสตี้สากล (Amnesty International) แสดงรายงานเกือบ 300 หน้าที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะวันอังคาร (1) กล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับการไร้มนุษยธรรม หรือพฤติกรรมการไร้ความเป็นมนุษย์ของการบังคับส่งตัว การกักขัง ทรมาน การสังหารอย่างไม่ถูกกฎหมายและการบาดเจ็บขั้นร้ายแรง และรวมไปถึงการปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพหรือการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อชาวปาเลสไตน์
"แอมเนสตี้สากลสรุปว่า รัฐปาเลสไตน์พิจารณาและปฏิบัติชาวปาเลสไตน์เสมือน "กลุ่มเชื้อชาติที่ด้อยกว่าชาวยิว"
โดยเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้สากล แอกเนส คอลลามาร์ด (Agnès Callamard) ได้แสดงความเห็นต่อ CNN ถึงเรื่องนี้ในวันอังคาร (1) ว่า "พวกเราเรียกมันว่าเป็นการกีดกันทางเชื้อชาติเพราะมันเป็นการกีดกันเชื้อชาติภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ"
และเสริมว่า "สิ่งที่เราค้นพบว่ามันเป็นการทำอย่างเป็นระบบ ระบบกฎหมาย นโยบาย การปฏิบัติ ระบบราชการที่ซับซ้อนที่พวกมันอยู่ที่นั่นเพื่อทำให้มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมและมีอิทธิพลเหนือประชาชนชาวปาเลสไตน์"
อย่างไรก็ตาม พบว่า "สหรัฐฯ" ออกมาโต้รายงานของแอมเนสตี้สากลที่อ้างว่า อิสราเอลใช้การกีดกันเชื้อชาติต่อปาเลสไตน์ โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เน็ด ไพรซ์ (Ned Price) แถลงโต้ว่า
"เราย่อมปฏิเสธอย่างแน่นอนต่อการปิดป้ายกล่าวหาตามการรายงานฉบับนี้" และกล่าวว่า "ทางเราคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญจากการที่รัฐยิวเพียงแห่งเดียวของโลกและชาวยิวจะต้องไม่ถูกปฏิเสธในสิทธิของความสามารถตัดสินต่ออนาคตของตัวเอง และเราต้องทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานเกิดขึ้น"
เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียกล่าวว่า ทั้งนี้รายงานฉบับนี้ของแอมเนสตี้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่มีความใกล้ชิดกับเทลอาวีฟใช้เครื่องมือทางการเมืองและการทูตเพื่อทำให้สถานการณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนี้ต้องยุติลง
"ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในกาซ่า เยรูซาเลมตะวันออก และส่วนทั้งหมดของเขตเวสต์แบงก์หรือของอิสราเอลเอง ชาวปาเลสไตน์ถูกปฏิบัติเสมือนเป็นชนชาติที่ด้อยกว่าและมีการกดขี่สิทธิของพวกเขาอย่างเป็นระบบ" คอลลามาร์ด กล่าว
และเสริมต่อว่า "พวกเราพบว่านโยบายป่าเถื่อนของการแบ่งแยก การริบทรัพย์สิน และการกีดกันของอิสราเอลเกิดทั่วทุกดินแดนภายใต้การควบคุมที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการแบ่งแยกเชื้อชาติ"
เลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้สากลกล่าวยืนยันว่า "ประชาคมระหว่างประเทศมีหน้าที่ต้องลงมือ"
เอบีซีนิวส์รายงานว่า เทลอาวีฟตอบโต้ข้อกล่าวหาของแอมเนสตี้อย่างรุนแรงโดยชี้ว่า รายงานฉบับนี้จะยิ่งเร่งโหมไฟให้มีความเกลียดชาวยิวมากยิ่งขึ้น
"รายงานฉบับนี้ข้ามเส้นเพราะมันบั่นทอนต่อการมีอยู่ของรัฐยิวที่มีฐานะเป็นบ้านเกิดของชาวยิว" โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลแถลง
สื่อออสเตรเลียชี้ว่า การแสดงความเห็นของผู้นำออสเตรเลีย สกอต มอร์ริสสัน ที่ออกมายืนยันการสนับสนุนต่อเทลอาวีฟ อย่างหนักแน่นในฐานะชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดของออสเตรเลียดูเหมือนจะสะท้อนต่อในสิ่งที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลได้พูดไว้ที่ว่า "อิสราเอลนั้นไม่สมบูรณ์แต่เป็น (รัฐ) ประชาธิปไตยที่ยึดมั่นต่อกฎหมายระหว่างประเทศและเปิดกว้างต่อการสอบสวน"
ที่มา ManagerOnline
เรื่องที่น่าสนใจ
- ชายคาทอลิก ท้าทายอุปสรรคฯ ยื่นฟ้องศาลขอแต่งงานสาวมุสลิม
- สันนิบาตอาหรับประณาม ปธน.อิสราเอล เยือนมัสยิดอิบรอฮีมี
- โมร็อกโก ประท้วงเดือด! เผาธงอิสราเอล
- เหตุใดซาอุฯ ยังคงไม่รับรองอิสราเอล แม้มีข่าวเจรจาความสัมพันธ์ในระดับสูง
- ยิวหัวรุนแรงบุกขึ้นมัสยิดอัลอักซอ โดยมีจนท.ยิวคุ้มกัน
- ผู้สื่อข่าว MSNBC ประณามสื่อกระแสหลักเข้าข้างอิสราเอล
- เจ้าผู้ครองนครดูไบ ถูกสั่งจ่ายค่าหย่าอดีตชายา 554 ล้านปอนด์