ชายชาวอินเดีย ได้เติมเต็มความฝันตลอดชีวิต ที่จะเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ แต่เขาเลือกใช้วิธีเดินเท้าตลอดทางจากบ้านเกิดในรัฐเกรละ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : ชายอินเดียเดินเท้าทำฮัจญ์ กว่า 8,000 กม.
ชายชาวอินเดีย นาม ชิฮาบุดดีน ซัยยิด อะลาวี (Shihabudeen Sayid Alawi) ได้เติมเต็มความฝันตลอดชีวิต ที่จะเดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์ แต่เขาเลือกใช้วิธีเดินเท้าตลอดทางจากบ้านเกิดในรัฐเกรละ (Kerala) เป็นระยะทาง 8,640 กิโลเมตร แทนที่จะเดินทางด้วยวิธีที่สะดวกสบายอื่น ๆ
ชีฮาบุดดีน หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Shihab Chottur วัย 31 ปี ได้เดินทางข้าม 5 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน อิรัก และคูเวต เพื่อให้ไปถึงมักกะฮ์ทันการประกอบพิธีฮัจญ์ และเขาใช้เวลาเดินทาง 1 ปี กับ 17 วัน โดยออกจากเกรละ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2565 และมาถึงมักกะฮ์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ก่อนพิธีฮัจญ์เริ่ม
เขาเล่าประสบการณ์ว่า เขาเดินถึงพรมแดนคูเวต-ซาอุดีอาระเบีย เวลา 05:17 ของวันหนึ่งในเดือนรอมฎอน “ฉันได้คุกเข่าและสัมผัสผืนทรายของซาอุดีอาระเบียในวันนั้น”
อาละวี เดินไปยังนครมาดีนะฮ์ก่อน เขากล่าวว่า “ฉันรู้สึกว่าการเดินทางของฉันสำเร็จ เมื่อฉันได้ไปถึงมัสยิดของท่านนบี ฉันได้ไปเยี่ยมรอว์ดะฮ์ และฉันแน่ใจว่า ฉันจะสามารถไปถึงมักกะฮ์ และประกอบพิธีฮัจญ์ได้”
เมื่อถึงมักกะฮ์ เขาลืมความท้าทาย ความยากลำบากทั้งหมดที่ต้องเผชิญ ระหว่างการเดินยาวนานหนึ่งปี เขาละหมาด ขอดุอาอฺ เป็นเวลาหลายชั่วโมง สำหรับผู้ที่ให้การสนับสนุนเขา และผู้ที่ขอให้เขาช่วยขอดุอาอฺต่อหน้ากะอฺบะฮ์ “ฉันได้ขอดุอาอฺให้กับประชาชาติมุสลิมทั้งมวล”
เขาเล่าถึงการเดินทางว่า ผู้คนในอินเดียและปากีสถาน ให้การสนับสนุนเขา และเข้ามารุมล้อมจากการที่ได้รับทราบข่าวของเขา แต่ในอิหร่านและอิรักไม่มีใครจำเขาได้ แต่เมื่อเริ่มเข้าเขตคูเวต คนที่รู้เรื่องการเดินทางของเขาเริ่มเข้ามาติดต่อขอพบ และให้การสนับสนุน
“ทุกประเทศที่ฉันแวะ ฉันได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และคนที่จำฉันได้ บางครั้งมีผู้เชิญฉันไปพักที่บ้านของเขาด้วย”
คุณพ่อของลูกสาว 3 คน เล่าว่า เขาใช้เวลาเตรียมการ 1 ปี เพื่อให้แน่ใจว่า สามารถเข้าถึงได้ทุกประเทศที่เขาต้องผ่านอย่างราบรื่น อาละวีได้ไปเยี่ยมคณะผู้แทนทางการทูตในกรุงนิวเดลีเพื่อขอรับวีซ่า เขามีวีซ่าที่ถูกกฎหมายในทุกประเทศ และสำหรับซาอุดีอาระเบีย เขาได้วีซ่าแบบเข้าประเทศได้หลายครั้ง (multiple-entry vis) และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น
“ฉันมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดสำหรับการทำฮัจญ์ผ่านหนึ่งในผู้ให้บริการฮัจญ์ ที่เสนอบริการประเภท A ให้ สิ่งนี้แสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ซาอุดีอาระเบีย มอบให้แก่ผู้แสวงบุญฮัจญ์ทุกคน ฉันรู้สึกสำนึกบุญคุณมาก”
สัมภาระที่อาละวีนำติดตัวไป มีเพียง ไม้เท้าเดินป่า และกระเป๋าเป้ที่มีเสื้อผ้า 4 ชิ้น สเปรย์พริกไทยสำหรับป้องกันตัวจากสัตว์ รองเท้าสำรอง 1 คู่ ของใช้ส่วนตัว เอกสารราชการ และเงินเล็กน้อยเท่านั้น “แต่ฉันแทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย เพราะพี่น้องมุสลิมในประเทศต่าง ๆ เอื้อเฟื้อ ดูแลฉันอย่างดีตลอดทาง”
ตลอดการเดินทาง น้ำหนักเขาลดไป 18 กิโลกรัม เพราะเขากินอาหารแบบดั้งเดิม เท่าที่จำเป็น ซึ่งดีต่อจิตวิญญาณและร่างกายของเขา โดยไม่มีอาหารเสริมโปรตีนหรืออาหารพิเศษ “เพียงอาหารฮาลาลเท่านั้น ที่ฉันจะกินได้อย่างสะดวกทั้งกายและใจ”
อะลาวี ได้รับแรงกระตุ้นจากความศรัทธาอันแรงกล้า และความไว้วางใจในอัลลอฮ์ “การไปถึงมักกะฮ์ และมาดีนะฮ์ เป็นความฝันของฉัน และการไปด้วยการเดินเท้าคือเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ” เขาต้องการเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่น ๆ และต้องการสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบพิธีฮัจญ์ ว่าต้องไปทำถ้ามีโอกาสไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
เขามีผู้ติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า 4.9 ล้านคน ทั้งบน YouTube และเพจ Facebook ซึ่งเขามักจะแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ของเขาตลอดการเดินทางครั้งนี้
ที่มา: www.arabnews.com
https://news.muslimthaipost.com/news/37421
- รมต.ต่างประเทศซาอุฯ เยือนอิหร่านครั้งแรก หลังหวนมีไมตรีกัน
- ฮัจญ์เยเมน เที่ยวบินแรกถึงซาอุฯแล้ว
- ฮัจย์ปีนี้ รถไฟสายด่วน Haramain จ่อวิ่ง 126 เที่ยวต่อวัน
- ซาอุฯประกาศวันออกอีดอัฎฮา 2566 วันไหน?
- สายการบินยูกันดา บินส่ง 500 คนไปมักกะห์ ในรอบกว่า 40 ปี
- ฮัจย์ปีนี้ คาด 2 ล้านคนจาก 57 ประเทศอิสลาม
- ซาอุฯ ผ่อนปรนกุโบร์บากี ให้ผู้แสวงบุญชีอะห์
- หญิงซาอุฯ จบปริญญาตรี ในวัย 70 ปี “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
- เปิดสถานทูตอิหร่านในซาอุฯ อีกครั้ง ปิดนาน 7 ปี
- แต่งตั้งสตรีซาอุฯคนแรก สำรองผู้บริหารประจำ AfDB
- กษัตริย์มาเลเซีย ส่งฮุจญาจเที่ยวแรกผ่าน “เส้นทางมักกะห์”