นายกมาเลย์ชื่นชมซาอุดีอาระเบีย “สร้างผลกระทบทรงพลัง” เมื่อนำแก้ปัญหาปาเลสไตน์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : นายกมาเลย์ชื่นชมซาอุดีอาระเบีย นำแก้ปัญหาปาเลสไตน์
อันวาร์ อิบรอฮีม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประณามสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในกาซา ว่า “เป็นความวิกลาจริต” พร้อมเตือนว่า “โลกไม่ได้ตาบอด ต่อความหน้าซื่อใจคดของผู้นำตะวันตก” เนื่องจากล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการประณามการรุกรานของอิสราเอล
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสุดยอด GCC - ASEAN ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่กรุงริยาด นายอันวาร์ กล่าวว่า ความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้เปิดโปงสิ่งที่เขามองเห็นว่า เป็นแนวโน้มของ “ความขัดแย้งและความหน้าซื่อใจคด” ในการเมืองระหว่างประเทศ ดังเช่น การพูดถึงสิทธิมนุษยชนด้านหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธสิทธิเดียวกันนั้นต่อผู้อื่น
ในคำปราศรัยเปิดการประชุมสุดยอด มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “ในขณะที่เรารวมตัวกัน ณ ที่นี้ ฉันรู้สึกเศร้าใจกับความรุนแรงที่ทวีขึ้น ที่ฉนวนกาซากำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นราคาที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นผู้จ่าย”
พระองค์ทรงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ “ยุติปฏิบัติการทางทหารต่อพลเรือน” และความจำเป็นเพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับการกลับมาของเสถียรภาพ และความสำเร็จของสันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งรับประกันถึงแนวทางแก้ไขที่ยุติธรรม ในการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ตามพรมแดน ปี 1967
อันวาร์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง ที่จะอธิบายคำพูดของมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ว่ามีความกระตือรือร้นและทันท่วงที และเสริมว่า ผู้นำอาหรับไม่เพียงแต่จะต้องดำรงตำแหน่งที่มั่นคง ต่อวิกฤตการณ์ในฉนวนกาซาเท่านั้น แต่ยังยึดถือจุดยืนบนพื้นฐานด้านมนุษยธรรมอีกด้วย และว่า มาเลเซียสนับสนุนความพยายามของ ซาอุดีอาระเบียและ GCC อย่างเต็มที่ในการยุติการสู้รบ และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในวงกว้าง
คำปราศรัยชองมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน เป็นส่วนหนึ่งของคำวิงวอนโดยรวม จากผู้นำการประชุมสุดยอด ซึ่งออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหยุดยิงถาวร และประณามการโจมตีประชากรพลเรือนในฉนวนกาซา
คำแถลงยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลักการและบทบัญญัติของอนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วย การคุ้มครองพลเรือนในช่วงสงคราม ขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สิ่งของบรรเทาทุกข์ ตลอดจนความจำเป็น และบริการที่สำคัญมากไปยังฉนวนกาซา
ในฐานะประเทศผู้ประสานงานการประชุมสุดยอด ฯ นายอันวาร์ ย้ำถึงความปรารถนาของเจ้าชาย บิน ซัลมาน ที่จะเห็นวิธีแก้ปัญหา 2 รัฐ โดยอิงตามขอบเขตประวัติศาสตร์ที่ระบุในปี 1967 เขาเรียกร้องให้ทุกประเทศมารวมตัวกันเพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และยุติธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์กลายเป็น “วิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ที่อาจขยายไปสู่ระดับภูมิภาค หริอแม้แต่ความขัดแย้งระดับโลก
“ชาวปาเลสไตน์จะต้องได้รับคืน ที่ดิน บ้าน และทรัพย์สินชองพวกเขา พวกเขาจะต้องได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และศักดิ์ศรี ในรัฐอธิปไตยของตนเอง ในเขตแดนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง”
ที่มา: www.arabnews.com