สหประชาชาติระบุ อิสราเอลสั่งห้ามนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าตอนเหนือของกาซา
UN เผย อิสราเอลเบรกส่งของช่วยเข้าฉนวนกาซา
สหประชาชาติระบุ อิสราเอลสั่งห้ามนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าตอนเหนือของกาซา
นายฟิลิปป์ ลัซซารินี ผู้บัญชาการใหญ่หน่วยงาน UNRWA ของสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า อิสราเอลไม่อนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในตอนเหนือของฉนวนกาซา
เขาโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า “ชาวปาเลสไตน์ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาอยู่ภายใต้การปิดล้อม – ทางการอิสราเอลยังคงปฏิเสธคณะทำงานด้านมนุษยธรรม ในการเดินทางไปยังตอนเหนือของกาซาพร้อมด้วยเสบียงที่จำเป็น รวมทั้ง ยารักษาโรค และอาหาร สำหรับชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ในนั้น”
ลัซซารินี เน้นย้ำว่า การโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าใช้ และทำให้ผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการรักษาพยาบาลทางการแพทย์
เมื่อกล่าวถึงความแออัดยัดเยียดอย่างรุนแรงในที่พักพิงของ UNRWA เนื่องมาจากการโจมตีของอิสราเอลที่หนักหน่วงขึ้น ลัซซารินี กล่าวว่า “@UNRWA สถานพักพิงที่เหลืออยู่นั้นแน่นเกินไป ผู้พลัดถิ่นบางถูกบังคับให้ต้องอาศัยอยู่ในห้องน้ำ”
เขายังย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการอนุญาตให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์ รวมถึง UNRWA เข้าถึงตอนเหนือของฉนวนกาซาได้ เขาวิพากษ์วิจารณ์การใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป็นเครื่องมือเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร โดยกล่าวว่า
“การปฏิเสธและการใช้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นอาวุธ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางทหาร ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เข็มทิศทางศีลธรรมนั้นต่ำเพียงใด”
แหล่งข่าวหลายแหล่ง และพลเมืองที่ติดอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือ กล่าวว่า สถานการณ์เกี่ยวกับความหิวโหยและกระหายน้ำนั้นย่ำแย่ลงอย่างมาก โดยทหารอิสราเอลปฏิเสธที่จะอนุญาตให้รถที่บรรทุกอาหาร หรือความช่วยเหลือเข้ามาในช่วง 16 วันที่ผ่านมา
วันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา กองกำลังยึดครองของอิสราเอล ได้เปิดปฏิบัติการทิ้งระเบิดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในญาบาเลีย และพื้นที่โดยรอบทางตอนเหนือของกาซา การบุกรุกภาคพื้นดินเริ่มขึ้นในวันรุ่งขึ้น ภายใต้ข้ออ้างในการป้องกันไม่ให้กลุ่มฮามาสฟื้นความแข็งแกร่งในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า อิสราเอลพยายามที่จะยึดพื้นที่ดังกล่าว และบังคับย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซา และทำให้เป็นพื้นที่นี้กลายเป็น “เขตกันชน” - news.muslimthaipost.com
ที่มา: www.middleeastmonitor.com