
โมร็อกโกเลือก Elbit Systems ของอิสราเอล เป็นผู้จัดหาด้านการป้องกันหลัก
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: โมร็อกโกเลือก Elbit Systems ทำไมถึงให้บริษัทอิสราเอลคุมงานป้องกัน?
โมร็อกโกเลือก Elbit Systems ของอิสราเอล เป็นผู้จัดหาด้านการป้องกันหลัก
หนังสือพิมพ์ La Tribune ของฝรั่งเศสรายงานว่า โมร็อกโกได้เลือกบริษัท Elbit Systems ของอิสราเอล เป็นผู้จัดหาด้านการป้องกันหลักของประเทศ โดยได้รับข้อตกลงในการจัดหาระบบปืนใหญ่ Atmos 2000 จำนวน 36 เครื่อง
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างกองทัพโมร็อกโก (FAR) กับบริษัทป้องกันประเทศ KNDS ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอาวุธหลักก่อนหน้านี้ของโมร็อกโก เนื่องมาจากการทำงานขัดข้องทางเทคนิคอย่างต่อเนื่องในระบบปืนใหญ่ Caesar ซึ่งโมร็อกโกสั่งจากฝรั่งเศส ในปี 2020 และได้รับบางส่วนในปี 2022
ตามการระบุของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม ข้อตกลงด้านกลาโหมฉบับใหม่ ทำให้โมร็อกโกนำเข้าอาวุธจากอิสราเอล คิดเป็นร้อยละ 11 ของการนำเข้าอาวุธทั้งหมด
โมร็อกโก เลือกระบบ Atmos 2000 เนื่องจากความสามารถขั้นสูงและความได้เปรียบทางการค้า ติดตั้งบนโครงรถบรรทุกขนาด 6x6 หรือ 8x8 ที่ผลิตจากสาธารณรัฐเช็ก ระบบปืนใหญ่ประกอบด้วยปืนใหญ่ขนาด 155 มม.ห้องลูกเรือที่ได้รับการป้องกันสำหรับบุคลากร 2 – 6 คน และระยะการยิงเกิน 40 ก.ม.
โมร็อกโกและอิสราเอล ประกาศข้อตกลงความสัมพันธ์ด้านการทูตในระดับปกติ เมื่อ 20 ธันวาคม 2563 ในช่วงวาระแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภายใต้กรอบสนธิสัญญาอับราฮัม ซึ่งเป็นชุดข้อตกลงที่สหรัฐ ฯ ผลักดันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับหลายประเทศ
ก่อนหน้านี้ โมร็อกโกและอิสราเอล มีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ และความร่วมมือที่จำกัดมานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้าและวัฒนธรรม
ในการลงนามข้อตกลงสนธิสัญญาอับราฮัม โมร็อกโกได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองและการทูต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อเมริการับรองอธิปไตยของโมร็อกโกเหนือดินแดนซาฮาราตะวันตก ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้รับการฟื้นฟู หลังจากถูกระงับมาตั้งแต่ปี 2543
การทำข้อตกลงความสัมพันธ์ทางการทูต ทำให้โมร็อกโกต้องเผชิญกับปฏิกิริยาผสม ทั้งภายในประเทศและระดับภูมิภาค ในโมร็อกโก พรรคการเมืองหลายพรรค โดยเฉพาะกลุ่มอิสลาม ชาตินิยม และฝ่ายซ้าย ตลอดจนขบวนการสิทธิมนุษยชน วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว ว่า เป็นการทำลายจุดยืนทางประวัติศาสตร์ของโมร็อกโกในประเด็นปาเลสไตน์
ในขณะเดียวกัน โมร็อกโก ยังคงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของอิสราเอลอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งการประณามแผนที่เสนอโดยทรัมป์ ที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา โดยมีการเรียกสิ่งนี้ว่า “ตัวอย่างที่อันตราย ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรม”
ตามรายงานของสื่ออิสราเอล โมร็อกโก เป็นหนี่งในจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้หลายแห่ง ที่ได้รับการพิจารณาสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่ของชาวปาเลสไตน์ ควบคู่ไปกับอียิปต์และจอร์แดน แต่โมร็อกโกปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างแข็งขัน สอดคล้องกับการต่อต้านของประเทศอาหรับอื่น ๆ
ที่มา: www.middleeastmonitor.com
https://news.muslimthaipost.com/news/38888
บทความที่น่าสนใจ
- ปากีฯจวกเนทันยาฮู เสนอให้ปาเลสไตน์ตั้งรัฐในซาอุฯ
- ผิดปกติ! คนแห่เข้าประเทศก่อนงานศพอดีตผู้นำฮิซบุลเลาะฮ์
- จากสเปนถึงมักกะฮ์! สามเกลอขี่ม้าทำฮัจญ์ในฝัน
- ชายอิรักมือเผาอัลกุรอานในสวีเดน เสียชีวิตแล้ว
- ทรัมป์สั่งลุย! ฮูซีย์ติดบัญชีดำ องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ
- นายกฯ เลบานอนคนใหม่! ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั่งแท่นผู้นำ
- ข่าวใหญ่! อิสราเอลอนุมัติถอนทหารจากฉนวนกาซาแล้ว
- กาตาร์แจง! 'เร็วเกินไป' ที่จะพูดถึงพลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์
- อิหร่านชวนโอเปก! รวมพลังต้านคว่ำบาตรน้ำมันสหรัฐฯ
- อิสราเอลสั่งทหารสแตนด์บาย รับมืออพยพชาวกาซา