2 สสอิสราเอล ท้าทรัมป์! เรียกร้องให้รับรองรัฐปาเลสไตน์กลางสภา
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: 2 ส.ส.อิสราเอล ท้าทรัมป์! เรียกร้องให้รับรองรัฐปาเลสไตน์กลางสภา
สื่ออะนาโดลู รายงานว่า สมาชิกรัฐสภาอิสราเอล 2 คน ตะโกนคำขวัญเรียกร้องให้รับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ และประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกาซา ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ต่อรัฐสภาเนสเซต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ภาพวิดีโอแสดงให้เห็น อัยมาน โอเดฮ์ และโอเฟอร์ คาสซิฟ สมาชิกพรรคฮาดาซ ฝ่ายซ้าย ถูกดึงตัวออกจากที่ประชุมรัฐสภา หลังจากที่พวกเขาชูป้ายกระดาษที่มีข้อความว่า “รับรองปาเลสไตน์”
แม้ว่าสหรัฐ ฯ จะยังคงปฏิเสธการรับรองรัฐปาเลสไตน์ แต่ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ 159 ประเทศ จาก 193 ประเทศ ได้ให้การรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว
ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อเดือนที่ผ่านมา มี 11 ประเทศได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย โปรตุเกส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม อันดอร์รา ฝรั่งเศส มอลตา โมนาโก และซานมารีโน ได้ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ
สุนทรพจน์ของทรัมป์ต่อหน้ารัฐสภา ได้รับเสียงปรบมือบ่อยครั้ง รวมถึงเสียงปรบมือจากสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตตะวันออกกลางของเขา จาเร็ต คุชเนอร์ บุตรเขย และมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฯ
ทรัมป์เดินทางถึงอิสราเอล เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิตอยู่ 20 คน ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา หลังจากนี้ เขาจะเดินทางไปยังอียิปต์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสันติภาพในฉนวนกาซา ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองรีสอร์ต ชาร์ม เอล-ชีค ริมทะเลแดง
นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 การโจมตีของอิสราเอลได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปแล้ว กว่า 67,800 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และยังได้ทำลายดินแดนแห่งนี้จนไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้
ที่มา: www.middleeastmonitor.com
https://news.muslimthaipost.com/news/39580
บทความที่น่าสนใจ
- ปูตินเผย! อิสราเอลขอให้ส่งสารถึงอิหร่าน “ขอไม่ยกระดับ”
- โศกนาฏกรรมเวสต์แบงก์! เด็ก 18 รายเสียชีวิตตั้งแต่ต้นปี
- ชาวกาซาอพยพทะลุ 300,000 คน UN พร้อมอัดงบช่วยเพิ่ม
- ตุรเคียชี้! การขัดขวางกองเรือช่วยกาซา คือโจรสลัด
- หยุดยิงแล้ว! สื่อต่างประเทศรีบขอเข้ากาซาทันที
- 2 ส.ส.อิสราเอล ท้าทรัมป์! เรียกร้องให้รับรองรัฐปาเลสไตน์กลางสภา
- น้ำตาและรอยยิ้ม! อดีตนักโทษปาเลสไตน์กว่า 1,700 คนได้รับอิสรภาพ
