นาย โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เสนอให้สัญชาติฟิลิปปินส์แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นาย โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เสนอให้สัญชาติฟิลิปปินส์แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาและย้ำความตั้งใจที่จะยอมรับพวกเขาเข้ามาในประเทศ
"ฉันยินดีที่จะยอมรับชาวโรฮิงญา" GMA News ซึ่งเป็นพอร์ทัลออนไลน์อ้างถึง Duterte ว่าเขากล่าวขณะที่เขาพูดระหว่างการประชุมในเมืองหลวงกรุงมะนิลา
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดูแตร์เต ยังเรียก ทหารที่ปราบปรามชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของพม่าในฐานะ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ซึ่งกระตุ้นให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากพม่าจนทำให้เขาต้องออกมาขอโทษ
ชาวโรฮิงยา สหประชาชาติอธิบายว่าเป็นผู้ที่ถูกข่มเหงมากที่สุดในโลก เผชิญกับความหวาดกลัว ในการโจมตี เนื่องจากประชาชนจำนวนมากถูกสังหารในเหตุการณ์ความรุนแรงในชุมชนในปี 2012
จากข้อมูลขององค์การนิรโทษกรรมสากล ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 750,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กหนีจากพม่าและเดินทางไปยังบังคลาเทศหลังจากกองทหารพม่าเริ่มทำการปราบปรามกลุ่มมุสลิมชนกลุ่มน้อยในเดือนสิงหาคม 2017
ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2017 ชาวมุสลิมโรฮิงยาเกือบ 24,000 คนถูกกองกำลังรัฐพม่าสังหาร ตามรายงานของสำนักงานพัฒนาระหว่างประเทศออนตาริโอ (OIDA)
รายงานของ OIDA ระบุว่ามีชาวโรฮิงญามากกว่า 34,000 คนถูกโยนเข้าไปกองไฟขณะที่คนอื่น ๆ อีกกว่า 114,000 คนถูกทำร้าย รายงานของ OIDA กล่าวในหัวข้อ “การถูกบังคับเพื่ออพยพของชาวโรงฮิงยา – ประสบการณ์ที่บอกเล่า”
ผู้หญิงและเด็กหญิงชาวโรฮิงญา 18,000 คนถูกข่มขืนโดยกองทัพและตำรวจของพม่าและบ้านของชาวโรฮิงญากว่า 115,000 คนถูกไฟไหม้และอีก 113,000 ถูกทำลาย
องค์การสหประชาชาติยังได้บันทึกการข่มขืนหมู่จำนวนมาก รวมถึงการสังหารทารกและการเฆี่ยนตีที่โหดร้ายและการหายตัวไปโดยกองกำลังรัฐพม่า
ในรายงานนักวิจัยของสหประชาชาติกล่าวว่าการละเมิดดังกล่าวอาจก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้