ศูนย์พิทักษ์ธรรม เข้าพบผู้ว่าฯยะลา แก้ปัญหาดราม่าพาเรดใส่ฮิญาบ เเต่โชว์โป๊ เพื่อเสนอเเนวทางป้องกันปัญหาการจัดกิจกรรกระทบศาสนาอิสลาม!!!
ศูนย์พิทักษ์ธรรม เข้าพบผู้ว่าฯยะลา แก้ปัญหาดราม่าพาเรดใส่ฮิญาบ เเต่โชว์โป๊ เพื่อเสนอเเนวทางป้องกันปัญหาการจัดกิจกรรกระทบศาสนาอิสลาม!!!
- เพจดัง เปิดหน้า จัดจัง “มุสลิมะห์ใช้อะไรคิด แต่งรัดเต้า โชว์ขาอวบ กลางถนน”
- วิทยาลัยอาชีวะยะลา แจงแล้ว!! พาเรดฮิญาบโชว์โป๊ สุดหดหู่
- จบแล้ว! โยนแพะ ร้านตัดชุด ส่งช้า มาแบบโป๊ “จำใจแต่งบาป”
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 ศูนย์พิทักษ์ธรรม เเละทีมนักกิจกรมทางสังคมพื้นที่จังหวัดยะลา นายจิรายุ เบ็ญจวงศ์ นายไซด์นอน แวหามะได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยะลากรณีการจัดกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐเเละเอกชนที่มีกิจกรรมในลักษณะเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามไม่ว่าทางด้านหลักศรัทธาหรือด้านการปฏิบัติ
โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายนิมะ มะกาเจ ออกมาทำหน้าที่รับหนังสือเเทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
โดยนายสายัณห์ สุขจันทร์ ประธานศูนย์พิทักษ์ธรรม ได้นำเรียนประเด็นปัญหาการจัดกิจกรรมเดินพาเหรดที่มีการใส่ฮิญาบเเต่เป็นการโป๊ร่างกาย ให้รองผู้ว่าฯทราบ โดยได้เเสดงความเป็นห่วงว่า กิจกรรมลักษณะเช่นนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส ทางศูนย์พิทักษ์ธรรมจึงอยากให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยดูเเลกำชับหน่วยงานต่างๆภายในจังหวัดไม่ให้มีการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามในทางเสียหายเกิดขึ้นอีก เเละอยากให้กำชับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ให้ใช้ความระมัดระวังรอบคอบให้มากในการจัดกิจกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักการศาสนา
เช่นกรณีงานสมโภชศาลหลักเมืองของ จ.ยะลา ทุกปีจะมีการนำสตรีมุสลิมคลุมฮิญาบมาเดินขบวนพาเหรดในชุดต่างๆ ซึ่งยังเป็นชุดที่ผิดหลัการศาสนาอิสลามอย่างเห็นได้ชัด มีการนำสตรีมุสลิมเเต่งชุดฮิญาบนั่งบนเสรี่ยงไปพร้อมๆกับรูปเคารพต่างๆ ซึ่งอันที่จริงงานในที่มีจุดประสงค์ของกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องความเชื่ออย่างงานสมโภชศาลหลักเมืองนั้น มุสลิมก็ไม่สามารถร่วมได้อยู่เเล้วเเละอีกหลายกิจกรรม
เพราะเกรงว่าการจัดกิจกรรมเหล่านี้ที่นำสตรีมุสลิไปมีส่วนร่วมในทางที่ไม่เหมาะไม่ควรจะเป็นปัญหาสะสมถึงความไม่พอใจเเก่พี่น้องมุสลิมเเละอาจเป็นเงื่อนไขที่อาจถูกนำไปโยงให้มีการเกลียดชังต่อหน่วยงานของรัฐมากขึ้น สร้างความเเตกเเยกมากขึ้นไปอีก ซึ่งหากทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้มี การทำหนังสือเวียนเพื่อยังหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ก็จะเป็นการเเก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้พอสมควร
ด้านนาย จิรายุ เบ็ญจวงศ์ นายไซด์นอน แวหามะ นักทำงานสังคมของจังหวัดยะลาก็สะท้อนปัญหาให้รองผู้ว่าฯได้ทราบในลักษณะทำนองเดี่ยวเช่นกัน โดยในฐานะคนในพื้นที่ทั้งสองคนมองว่า เรื่องเหล่านี้ควรได้รับการเเก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมได้เเล้ว เพราะตอนนี้สภาพสังคมมุสลิมยะลาเอง มีความผสมปนปนในเรื่องศาสนาไปในทางที่ไม่ถูกต้องต่อหลักการมากขึ้นทุกวัน อยากให้หน่วยงานต่างๆทั้งในส่วนของผู้นำศาสนา ภาครัฐเเละประชาชนได้มีการทบทวนปัญหาเหล่านี้ร่วมกันเพื่อรักษาความสมดุลย์ในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายทางวัฒนธรรมเเห่งนี้
ด้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายนิมะ มะกาเเจ ได้กล่าวกับคณะที่เข้าพบว่า จะนำเรียนประเด็นดังกล่าวให้ผู้ว่าทราบเพื่อหาเเนวทางเเก้ไขปัญหานี้ต่อไป เเละโดยท่านรองผู้ว่าฯได้เเสดงความเห็นเป็นห่วงปัญหาเหล่านี้เช่นกันเพราะมองว่าไม่อยากให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องศาสนาไม่ไม่ว่าศาสนาไหนไม่อยากให้เกิดความเเตกเเยกในการอยู่ร่วมกัน เเต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการทำความเข้าใจในเรื่องหลักปฏิบัตหลักความเชื่อของเเต่ละศาสนาเพื่อจะได้มีกิจกรรมที่ดีที่ถูกต้องสร้างสรรค์ไม่กระทบต่อศาสนานั้นๆ
เเละรองผู้ว่าฯได้ให้โอวาทในการทำงาน เเก่คณะทำงานของศูนย์พิทักษ์ธรรม ในการทำหน้าที่รับใช้สังคมอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
นายสายัณห์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝากประชาชนเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ว่า การที่ศูนย์พิทักษ์ธรรม มายืนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาวันนี้ ก็เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำซากในการจัดกิจกรรมที่เป็นการกระทบต่อหลักศรัทธาหลักปฏิบัตของศาสนาอิสลามอีกเพราะพื้นที่3จังหวัดชายเเดนใต้เกิดเรื่องลักษณะทำนองนี้บ่อยมากทั้งๆที่เป็นพื้นที่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นดินเเดนเเห่งระเบียงมักกะห์ ดินเเดนที่อุดมไปด้วยบรรยากาศของศาสนาอิสลาม
ขงเบ้งเเดนใต้ รายงานข่าว