กลุ่มสิทธิมนุษยชนมาเลย์ประณามการจับกุมมุสลิมชีอะฮ์ เรียกร้องให้สิทธิในการปฏิบัติความเชื่อ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : ประณามเหตุจับกุมมุสลิมชีอะฮ์ ในวันอาชูรอ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนมาเลย์ประณามการจับกุมมุสลิมชีอะฮ์ เรียกร้องให้สิทธิในการปฏิบัติความเชื่อ
สื่อมาเลเซียรายงานอ้าง นายคามิล ซุฮัยรี ผู้นำศาสนาอาวุโสของชุมชนชาวชีอะฮ์ ที่เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ตำรวจมาเลเซียจับกุมมุสลิมชีอะฮ์ 22 คน ระหว่างที่กำลังอ่านอัล-กุรอาน และอยู่ในพิธีวันอาชูรอ เพื่อรำลึกถึงการเสียชีวิตของอิมามฮูเซ็น หลานชายของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ฮาซัน อัสการี นักการศาสนาอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ตำรวจใช้ความรุนแรง และใส่กุญแจมือ รวมทั้งกล่าวหาว่าพวกเขากำลังดูหมิ่นอิสลาม
ทางการรัฐสลังงอ แถลงยืนยันการจับกุมดังกล่าว โดยอ้างกฎระเบียบของรัฐที่ห้ามการปฏิบัติตามแบบชีอะฮ์ แต่ผู้จับกุมถูกสอบสวนและปล่อยตัวไป ซึ่งหลายคนยังเกรงว่าพวกเขาอาจถูกส่งตัวขึ้นศาล
เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ตำรวจและฝ่ายศาสนาจับกุมชาย 8 คน ทางตอนใต้ของรัฐยะโฮร์ ขณะกำลังร่วมพิธีมุฮัรรอม ในที่พักส่วนตัว
หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของมาเลเซีย ออกมาประณามการจับกุมดังกล่าว และแถลงว่า ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ของมาเลเซีย องค์กรพัฒนาภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ยังไม่ให้ความเคารพ และเปิดกว้างต่อการปฏิบัติทางศาสนาของแต่ละบุคคล ก็ไม่สามารถยอมรับได้อย่างแท้จริงว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม
อะหมัด ฟารุค มูซา ผู้ก่อตั้งกลุ่มสิทธิ ‘Islamic Renaissance Front’ กล่าวว่า การปราบปรามชาวชีอะฮ์ ที่ทำพิธีรำลึกถึงอิมามฮูเซ็นในวันอาชูรอ ต้องยุติลง และมุสลิมชีอะฮ์มีสิทธิ์ที่จะแสดงการรำลึกเนื่องในโอกาสวันอาชูรอ
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งมาเลเซีย ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาล ได้รับการร้องเรียนจากมุสลิมชาวชีอะฮ์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมมาธิการ ฯ ดังกล่าวมีบทบาทในการให้คำชี้แนะเท่านั้น
ในขณะที่รัฐบาลมาเลเซีย มุ่งมั่นส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในการเป็นชาติมุสลิมสายกลาง นักวิเคราะห์ระบุว่า กลุ่มสุดโต่งในประเทศกำลังพยายามที่จะนำการตีความอิสลามแบบวะฮะบี มาใช้ และกลุ่มนี้กำลังขยายตัวมากขึ้นทุกที
ที่มา: www.presstv.com