มุสลิมสิงคโปร์ได้มุฟตีคนใหม่ เริ่มวันที่ 1 มีนาคม ที่จะถึงนี้
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: มุสลิมสิงคโปร์ได้มุฟตีคนใหม่ เริ่ม1มี.ค.นี้
มุสลิมสิงคโปร์ได้มุฟตีคนใหม่ เริ่มวันที่ 1 มีนาคม ที่จะถึงนี้
ดร.นาซิรุดดีน โมฮัมมัด นาซีร (Dr.Nazirudin Mohd Nasir) วัย 34 ปี รองมุฟตีคนปัจจุบัน จะเข้ารับตำแหน่งมุฟตีคนใหม่ของมุสลิมสิงคโปร์ ในวันที่ 1 มีนาคม ศกนี้ โดยในวันดังกล่าวจะเป็นวันสิ้นสุดตำแหน่งของ มุฟตีโมฮาเหม็ด ฟาตริส บาการอม (Mufti Mohamed Fatris Bakaram) วัย 49 ปี ซึ่งลงจากตำแหน่งหลังจากปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว 9 ปี
ดร.นาซิรุดดีน โมฮัมมัด นาซีร มุฟตีคนใหม่ของมุสลิมสิงคโปร์
ทั้งนี้ สภาศาสนาอิสลามแห่งสิงคโปร์ (MUIS) ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา และเสริมว่า ตลอดเวลาที่ผ่านา ดร.นาซิรุดดีน มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนมุสลิมในสิงคโปร์ ด้วยการพัฒนานโยบายด้านศาสนาหลายประการ
มุฟตีโมฮาเหม็ด ฟาตริส บาการอม
ดร.นาซีรุดดีน จะเป็นมุฟตีคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ และเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในขณะที่มีอายุมากเป็นอันดับที่ 2 ในแถลงการณ์ยังระบุว่า จะมีการแต่งตั้งรองมุฟตี 2 คน คือ อุสตาซ โมฮัมมัด มุรอต และอุสตาซ โมฮัมมัด ฮันนาน ฮัสซัน เพื่อช่วยสนับสนุนงานต่าง ๆ อาทิ งานดูแลนโยบายด้านศาสนา และการพัฒนาครูสอนศาสนา และหลักสูตรในโรงเรียนสอนศาสนา เป็นต้น
ในแถลงการณ์ยังระบุว่า ดร.ฟาตริส ตัดสินใจลงจากตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเป็นผู้นำชาวมุสลิมในสิงคโปร์ และว่า หนึ่งในหน้าที่ของเขา คือ การพัฒนาศรัทธาชนคนรุ่นใหม่ และผู้นำศาสนา ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง เขาได้ทำภารกิจในการเสริมสร้างและพัฒนาครูสอนศาสนา และเขารู้สึกยินดีที่เห็นพัฒนาการที่สำคัญในหมู่ครูผู้สอนศาสนาและนักวิชาการรุ่นใหม่
ดร.ฟาตรีส จบปริญญาโทด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ ในมาเลเซีย และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ในอังกฤษ เริ่มเป็นครูสอนศาสนาที่มัดราซะฮ์ Aljunied ในปี 1993 (พ.ศ.2536)
ส่วนมุฟตีคนใหม่ ดร.นาซีรุดดีน จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ใช้ความรู้ความสามารถในการช่วยสภาศาสนาอิสลาม ฯ พัฒนานโยบายการฟัตวา และการอบรมครูสอนศาสนาอิสลาม
เพิ่มเติม: มุฟตี คือ บุคคลผู้ทรงความรู้ ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนศาสนทูต และเป็นผู้ได้รับฉันทานุมัติให้ลงนามแทนอัลลอฮฺในการให้ความกระจ่างประเด็นศาสนาแก่มนุษยชาติ
ดังนั้น มุฟตีจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นผู้รู้ในศาสตร์อิสลามและสารัตถะศาสนา ต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างแตกฉานเกี่ยวกับอัลกุรอานและสุนนะฮฺ มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอาหรับ มีความรอบรู้ศาสตร์ที่ว่าด้วยชีวิตและสังคมมนุษย์ มีสติปัญญาอันเฉียบแหลมกอปรกับความรู้ความสามารถในการเข้าถึงแก่นแห่งศาสนบัญญัติได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
ท่านอิมามซาฟิอีย์ได้กล่าวไว้ความว่า :
"ไม่อนุญาตสำหรับใครก็ตามที่จะทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัยประเด็นศาสนา (มุฟตี) เว้นแต่ผู้ที่มีความรู้ในศาสนาของอัลลอฮฺ มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์และข้อปลีกย่อยแห่งอัลกุรอาน มีความแตกฉานในหะดีษ และศาสตร์ว่าด้วยหะดีษ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาอาหรับ สำนวนโวหารและวาทกรรมอาหรับ
ทั้งนี้ มุฟตีจำต้องมีบุคลิกที่สุขุม รอบคอบ ไม่พูดมาก เป็นคนที่รอบรู้ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างสำนักคิดต่าง ๆ เขาจะต้องเป็นผู้ที่เพียบพร้อมทั้งพรสวรรค์ และพรแสวงของคุณสมบัติของความเป็น มุฟตีที่ดี "
ที่มา: www.straitstimes.com
http://news.muslimthaipost.com/news/33547
- มรดกโลกอิสลาม ISESCO เพิ่มอีก 7 สถานที่
- มัสยิดตุรกีอายุ 609 ปี ย้ายหนีน้ำท่วม
- ต้าน ก.ม.สัญชาติใหม่ ทำพิษ! ท่องเที่ยวอินเดียระส่ำหนัก
- เข้ารับอิสลามใหม่ มุสลิมใหม่ทั่วโลก ในแต่ละปีรู้หรือไม่มีกี่คน
- อิหม่ามในสหรัฐฯกว่า 130 คน ลงนามเรียกร้องจีน ปล่อย มุสลิมอุยกูร์
- แจงโต้ข่าวลือ ธนบัตรริงกิต มาเลเซีย เปื้อนไขมันหมู?
- 1 ใน 5 สตรีมุสลิมมาเลย์เชื่อ สามีมีสิทธิลงโทษภรรยา
- อึ้ง! รัฐปะลิสปลดอิหม่ามรวดเดียว 25 คน