เจ้าหญิงซาอุฯ ถูกขังอยู่ในคุกที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี โดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาความผิดที่ชัดเจน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: เจ้าหญิงซาอุฯ ร้องขอให้ปล่อยตัวจากคุก
มีรายงานข่าวว่า เจ้าหญิงบัสมะฮ์ บินตฺ ซาอุด (Princess Basmah bint Saud) วัย 56 ปี ซึ่งถูกขังอยู่ในคุกที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสุดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี โดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาความผิดที่ชัดเจน ได้ร้องอุทธรณ์ไปยังกษัตริย์ซัลมาน และมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน เพื่อขอให้ปล่อยตัวพระองค์ เนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพที่ย่ำแย่ลงถึงขนาดที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
กษัตริย์ซัลมาน
เจ้าหญิงบัสมะฮ์ ทรงเป็นนักธุรกิจหญิง และเป็นผู้ที่มักจะแสดงความคิดเห็นอย่างไม่ไว้หน้าใคร บิดาของเจ้าหญิงคือ อดีตกษัตริย์องค์ที่ 2 ของราชวงศ์ซาอุด แหล่งที่ข่าวที่ใกล้ชิดเปิดเผยว่า พระองค์ถูกจับกุมคุมขังตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 ก่อนที่จะเดินทางไปรักษาอาการป่วยที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
การเรียกร้องผ่านช่องทางทวิตเตอร์ของเจ้าหญิงครั้งนี้ เป็นสัญญาณล่าสุดของความวุ่นวายในราชวงศ์ที่เป็นความลับของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย หลังจากมีข่าวการจับกุมน้องชาย และหลานชายของกษัตริย์ซัลมาน เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีการอ้างอิงถึงความพยายามที่ชัดเจนในการสร้างความขัดแย้งภายใน
ในทวิตเตอร์ของเจ้าหญิงระบุว่า พระองค์ไม่ได้รับการรักษาพยาบาลตามที่ควร หรือแม้แต่คำตอบจากราชสำนัก สำหรับจดหมายที่พระองค์ส่งถึงจากในคุก พระองค์ยังระบุว่า ถูกโยนเข้ามาในคุก หลังจากถูกลักพาตัวโดยไม่มีคำอธิบายพร้อมกับลูกสาว 1 คน
เจ้าหญิงบัสมะฮ์ บินตฺ ซาอุด (Princess Basmah bint Saud)
พระองค์ได้อุทธรณ์ไปยังลุง (กษัตริย์ซัลมาน) และหลานชาย (มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน) ให้ปล่อยตัวเธอเพราะเธอไม่ได้ทำความผิด และว่าสุขภาพของเธอกำลังย่ำแย่อย่างมาก
พระองค์ไม่ได้ระบุถึงอาการเจ็บป่วย แต่คำอุทธรณ์นี้ออกมาในช่วงที่ซาอุดิอาระเบีย กำลังต่อสู้กับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 และไม่แน่ชัดว่า เหตุใดเจ้าหญิงจึงสามารถทวีตผ่านทางทวิตเตอร์ออกมาจากคุกอัล-ฮาอีร (al-Ha’ir) ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยสูงสุดได้ แต่ข้ออ้างของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติในการกระทำของสมาชิกบางคนในราชวงศ์ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหลายพันคน ซึ่งส่วนมากของสมาชิกราชวงศ์มักจะไม่ออกมาแสดงความคับข้องใจในพื้นที่สาธารณะ
ซาอุดิอาระเบีย มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ของวันที่ 18 เมษายน อยู่ที่ 1,132 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 8,274 ราย เสียชีวิต 92 ราย
ที่มา: www.aljazeera.com