สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ขอให้จุฬาราชมนตรีได้พิจารณาอนุญาตผ่อนปรนให้มีการละหมาดวันศุกร์ (ญมอะฮ์) โดยระบุว่า
ด่วนมาก! แจงขอผ่อนผันประกาศจุฬาราชมนตรี ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
เรื่อง การขอผ่อนผันประกาศจุฬาราชมนตรี
เรียน ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดชายแดนภาคใต้
อ้างถึง หนังสือสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ PERMAI.๐๑๐/๒๕๖๓
ลงวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๓
ตามหนังสือที่อ้างถึง สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ขอให้จุฬาราชมนตรี ได้พิจารณาอนุญาตผ่อนปรนให้มีการละหมาดวันศุกร์ (ญมอะฮ์) โดยระบุว่า ได้มีข้อเรียกร้องจากพี่น้องมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ขอผ่อนผันคําสั่งจุฬาราชมนตรีเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ซึ่งทางสมาพันธ์ฯ ได้อ้างถึงการพิจารณาจากรายงานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในประเทศไทยที่ดีขึ้นค่อนข้างมาก และอ้างถึงการผ่อนคลายมาตรการบางอย่างในบางพื้นที่ของ ทางจังหวัดฯ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ในการนี้ จุฬาราชมนตรีรับทราบข้อเรียกร้องการผ่อนผันประกาศจากทางสมาพันธ์ฯ แล้ว และได้ตระหนักถึงความจําเป็นในการประกอบศาสนกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละหมาดวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นข้อบัญญัติภาคบังคับ (วาญิบ) สําหรับมุสลิมที่บรรลุศาสนภาวะทุกคน อย่างไรก็ตาม การผ่อนผันมาตรการ ใด ๆ อันจะมีผลต่อการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๔๙ (COVID-19) จําเป็นที่จะต้องพิจารณาข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและข้อมูลด้านสาธารณสุขอย่างรอบด้านเพื่อประกอบในการกำหนดมาตรการผ่อนผัน
ด้วยเหตุนี้ จุฬาราชมนตรีจึงได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉินจังหวัด อีกทั้งจะหารือกับสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อนําข้อมูลมาประกอบการพิจารณาการกําหนดแนวทางปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในลําดับต่อไป
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ประกาศมาตรการฯ ที่ผ่านมา เป็นไปตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลามทุกประการ โดยมีเจตนารมณ์ตั้งมั่นอยู่ในการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตมนุษย์ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับสังคมทุกภาคส่วน
จึงใคร่ขอความร่วมมือมายังประธานกรรมการอิสลามประจําจังหวัดทุกจังหวัดได้ชี้แจงให้พี่น้องมุสลิม มีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ตามประกาศจุฬาราชมนตรีต่อไปก่อน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเรียกร้องการผ่อนผันเพื่อการประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมจะเกิดขึ้นในเร็ววัน และขอดุอา (ขอพร) ต่อเอกองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ทรงบันดาลให้ภัยบะลาครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้ปฏิบัติศาสนกิจต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยความปลอดภัยต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายอาศิส พิทักษ์คุมพล)
จุฬาราชมนตรี