กรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง กรณีวิดีโอเผยแพร่ยุทธศาสตร์การดะวะฮุในประเทศไทย อิสลามขอเป็นศาสนาประจำชาติแทนศาสนาพุทธ
ข่าวปลอม! 'อิสลาม' ขอเป็นศาสนาประจำชาติ
กรณีที่มีผู้เผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง กรณีวิดีโอเผยแพร่ยุทธศาสตร์การดะวะฮุในประเทศไทย อิสลามขอเป็นศาสนาประจำชาติแทนศาสนาพุทธ
ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อดังกล่าวนั้น เป็น ข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์
“แชร์พระ แชร์ดอกไม้ ถึงกันได้ อย่าลืมแชร์ต่อต้านภัยเงียบ ที่อิสลามกำลังคืบคลานมารุกรานประเทศชาติและศาสนาพุทธเรา อะไรก็เกิดขึ้นได้ศาสนาพุทธยังหายไปจากการเป็นศาสนาประจำชาติได้เลยใช้มหาดไทยเป็นตัวจักร ขับเคลื่อน มาแล้วครับเชียงรายอิสลามให้ขึ้นกับมหาดไทยกรมศาสนาไม่ขึ้น
อำนาจสั่งการไม่มี กฏหมายอิสลามผ่านสภาไปแล้ว วาระ 2-3 รวดเดียว การประชุมวางแผนโน้มน้าวกล่าวถึง การเข้ายึดครองประเทศไทย ทั่วทุกภูมิภาค ของมุสลิม ถ้าคุณคือคนไทย ต้องเปิดดู ให้รู้เรื่องจริงเช่นนี้ ที่เกิดขึ้นมีจริง”
ในการแชร์ต่อนั้น กระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว พบว่าในคลิปวิดีโอดังกล่าวไม่มีการกล่าวอ้างถึงกระทรวงมหาดไทยแต่อย่างใด โดยคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ตั้งแต่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ แล้ว แต่ยังปรากฏการแชร์คลิปดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อเท็จจริงของกรณีคำว่า
“เชียงรายอิสลามให้ขึ้นกับมหาดไทยกรมศาสนาไม่ขึ้น อำนาจสั่งการไม่มี กฎหมายอิสลามผ่านสภาไปแล้วนั้น วาระ ๒-๓ รวดเดียว”
นั้นมีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบรายละเอียดของหน่วยงานใด หรือที่ทำให้ทราบได้ว่าเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องอะไร หรือกฎหมายฉบับใด และไม่พบข้าราชการ/เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในภาพที่ปรากฏตามคลิปที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้กรณีการเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเพียงการสร้างความวุ่นวายทางสัมคม และได้ส่งผลให้คนจำนวนมากเกิดความสับสนและก่อให้เกิดอารมณ์โกรธเคือง ตลอดจนการแบ่งแยกทางศาสนาเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ปรากฏภาพนายกรัฐมนตรีหลายภาพในลักษณะที่ไม่เกี่ยวข้องกันแต่มาใช้ขยายผลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกด้วย
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ โปรดวิจารณญาณ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ
(หมายเหตุ: ดะวะฮฺ ความหมายทางด้านวิชาการ คือ การเผยแพร่ศาสนาแก่มวลมนุษย์ทั้งมวล การเชิญชวนไปสู่สัจธรรม การสั่งใช่ในเรื่องความดี การห้ามในการทำสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้ามทั้งหลาย)
ขอบคุณที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการข่าวกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
........................................................
อัลกุรอานกับการปกป้องศาสนสถานอื่น นอกเหนือจากอิสลาม
บทความโดย: ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ หัวหน้าสำนักงานงานจุฬาราชมนตรี
อัลกุรอานเป็นธรรมนูญแห่งชีวิตของมุสลิม เมื่อมุสลิมมิได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง หากแต่ต้องปฏิสัมพันธ์กับคนหลากหลายศาสนา จึงเป็นธรรมดาที่อัลกุรอานจะบัญญัติกรอบแห่งปฏิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นไว้ด้วย
เมื่อพูดถึงการญิฮาด หลายคนนึกถึงการทำสงครามของมุสลิมที่มุ่งเน้นเพียงการปกป้องอิสลามและปกป้องตัวเองเท่านั้น จะมีสักกี่คนที่ตระหนักว่าเมื่ออัลลอฮทรงบัญญัติการญิฮาดนั้น ทรงระบุถึงการปกป้องคุ้มครองศาสนสถานอื่นนอกเหนือจากศาสนสถานของมุสลิมด้วย
นั่นคือบทที่ 22(อัลฮัจญ์) : 40 ซึ่งพระดำรัสช่วงนี้มีใจความว่า
“แม้นหากพระองค์ไม่ทรงอนุมัติให้มีการต่อสู้ทัดทานอำนาจชั่วร้ายในหมู่มนุษย์กันเอง ศาสนสถานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานบำเพ็ญภาวนาของเหล่านักบวช โบสถ์คริสต์ โบสถ์ยิว และมัสยิด ก็คงถูกทำลายเสียสิ้น…”
นัยยะแห่งโองการคือ ทรงอนุมัติการต่อสู้ทัดทานกับอำนาจชั่วร้ายของกษัตริย์หรือผู้นำบางคน เพื่อรักษาสมดุลในสังคมมนุษย์มิให้คนอ่อนแอถูกทำลายจนย่อยยับและเพื่อให้ศาสนสถานทั้งหลายสามารถดำรงอยู่เป็นสถานขัดเกลาจิตใจของผู้คนต่อไปได้
ดังนั้น โปรดศึกษาอัลกุรอานให้รอบด้าน ก่อนจะออกมากล่าวร้ายแก่คัมภีร์อันยิ่งใหญ่นี้ เพราะการกล่าวโดยไม่ศึกษาให้ดี มีแต่บ่งชี้ว่าผู้กล่าวนั้นเป็นคนโฉดเขลาคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ที่มา:www.antifakenewscenter.com
- ข่าวปลอม! อิสลาม ห้ามเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญ
- ข่าวปลอม! หนังสือเรียน วิชาอิสลาม ห้ามไหว้ผู้มีพระคุณ
- ไอแบงก์ มอบเงินซะกาตกว่า 150,000 บาท ชวนสะสมความดีร่วมกัน
- ข่าวปลอม! บรรจุอิสลามศึกษา เข้าทุกโรงเรียน
- นายกฯ เนเธอร์แลนด์ เรียกร้องมุสลิมอยู่บ้านช่วงรอมฎอน
- FAKE NEWS ข่าวดะวะห์รวมพลละหมาด ต้านคำสั่งแพทย์