ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ได้หยิบยกข้อโต้แย้งที่น่าสนใจ ว่า บ้านโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีในเมืองนาซาเรธ คือ บ้านที่พระเยซูเคยใช้ชีวิตอยู่ในวัยเยาว์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: นักโบราณคดีพบบ้านในวัยเด็กของพระเยซู (ชมภาพ)
นักโบราณคดีพบบ้านในวัยเด็กของพระเยซูที่เมืองนาซาเรธ
เคน ดาร์ค (Ken Dark) ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง (Reading University) ประเทศอังกฤษ ได้หยิบยกข้อโต้แย้งที่น่าสนใจ ว่า บ้านโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีในเมืองนาซาเรธ คือ บ้านที่พระเยซูเคยใช้ชีวิตอยู่ในวัยเยาว์
บ้านโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษแรก และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักชี Sisters of Nazareth Convent ในยุคของศตวรรษที่ 19 มีการระบุว่า อาคารนี้ เป็นบ้านที่พระเยซูเติบโตขึ้น โดยได้รับการเลี้ยงดูจากโจเซฟ และพระนางมัรยัม (มารี) แต่ทฤษฎีนี้ถูกปฏิเสธ และยกเลิกไปในปี 1930
ศาสตราจารย์เคน ซึ่งทำงานภาคสนาม และงานวิจัยในพื้นที่นี้มานาน 14 ปี ได้พบว่า สำนักคอนแวนต์ดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาซารีนโบราณ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบ้านหลังแรกของพระเยซู โดยยังมีชิ้นส่วนสำคัญของอาคารหลงเหลืออยู่รวมถึงบันไดหิน ซึ่งในยุคนั้นอาจมีห้องนั่งเล่น และห้องเก็บของหลายห้องรอบ ๆ ลานภายในและระเบียงบนดาดฟ้า
เขายังพบว่า นับตั้งแต่ ค.ศ.380 คนในพื้นที่มีความเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นบ้านในวัยเด็กของพระเยซู และเขายังได้ยืนยันถึงสถานะของอาคารว่า สร้างตั้งแต่ศตวรรษแรก ซึ่งต่างจากอาคารในบริเวณอื่นของเมือง
การตรวจสอบของ ศ.เคน ยังพบว่า อาคาร 2 ชั้นหลังนี้มีฝีมือการสร้างที่ยอดเยี่ยม โดยมีความเข้าใจในการจัดวางหินอย่างสอดคล้อง สมกับที่เจ้าของมีอาชีพที่เรียกว่า tekton ซึ่งตามพระคัมภีร์ฉบับของกรีกระบุว่า อาชีพของโจเซฟนั้นไม่เพียงแต่เป็นช่างไม้ แต่เขายังเป็นผู้ชำนาญในการสร้างบ้านด้วยหินอีกด้วย
การสำรวจของเขายังพบว่า โบสถ์ในถ้ำที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคถูกสร้างขึ้นข้าง ๆ ซากบ้านในศตวรรษที่ 4 พอในศตวรรษที่ 5 ก็มีการสร้างโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองนาซาเรธ (ในขณะนั้น) ครอบลงบนบ้าน และโบสถ์ในถ้ำอีกทีหนึ่ง
โบสถ์ใหญ่แห่งนี้ถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยหินอ่อนและกระเบื้องโมเสค ซึ่งตรงกับคำอธิบายถึงโบสถ์ไบแซนไทน์ขนาดใหญ่ ที่กล่าวกันในศตวรรษที่ 7 ว่า สร้างอยู่บนที่ตั้งของบ้านวัยเด็กของพระเยซู และปัจจุบันเป็นสถานที่แสวงบุญของคริสตศาสนิกชนที่สำคัญ
ที่มา: www.rt.com