แผนของกลุ่มศาสนสถานมุสลิมเมืองเบบปุ (Beppu Muslim Church) ที่จะจัดหาที่ดินเพื่อสร้างสุสานแห่งแรกบนเกาะคิวชู ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนในท้องถิ่น
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: มุสลิมเกาะคิวชู ดิ้นรนตั้งสุสาน ท่ามกลางกระแสต้าน
แผนของกลุ่มศาสนสถานมุสลิมเมืองเบบปุ (Beppu Muslim Church) ที่จะจัดหาที่ดินเพื่อสร้างสุสานแห่งแรกบนเกาะคิวชู ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนในท้องถิ่น
ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชนส่วนใหญ่มีประเพณีการเผาศพ มีพื้นที่ที่เป็นสุสานจำนวนจำกัด และมีเพียงไม่กี่แห่งที่มีพื้นที่ฝังศพสำหรับชาวมุสลิมญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมุสลิมในญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก สุสานมุสลิมมีอยู่เพียง 2 แห่ง คือ ในฮ็อกไกโด และ คันโตะ แต่ไม่มีสุสานมุสลิมบนเกาะคิวชู
พระราชบัญญัติเกี่ยวกับสุสานและการฝังศพ ไม่ได้มีการห้ามฝังศพ และมีบางสุสานที่สมาคมมุสลิมได้ซื้อที่ดินและแบ่งส่วนทำเป็นสุสานสำหรับมุสลิม ปัจจุบันมีเพียงสุสานของคริสตจักรแคธอลิค ในเขตปกครองโออิตะ คิวชู ที่ยอมให้มีการฝังศพมุสลิม แต่พื้นที่ว่างนับวันจะเหลือน้อยลงทุกที
ในขณะเดียวกัน มีเสียงเรียกร้องในหมู่ประชากรมุสลิมมากขึ้นทุกที ให้จัดหาสถานที่ฝังศพสำหรับมุสลิมที่เข้ามาพำนักอาศัยในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น เมื่อ 10 ปีก่อน ชายมุสลิมวัย 56 ปีในฟูกูโอกะ ต้องขับรถไปนาน 15 ชั่วโมงเพื่อฝังศพลูกชายของเขาที่จังหวัดยามานาชิ แต่หลังจากนั้น เขาไม่สามารถไปเยี่ยมหลุมศพ เนื่องจากไม่มีค่าเดินทาง
เหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ายบริหารศาสนสถานมุสลิมเริ่มมองหาที่ดินเปล่าที่ใกล้เคียง โดยเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการประกาศขายที่ดินในจังหวัดโออิตะ แต่ไม่พบที่ดินที่เหมาะสม จนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา พวกเขาเริ่มมีความหวังโดยได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งขนาด 8,000 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภูเขาในเมืองฮิจิ ใกล้ ๆ กับเมืองเบบปุ มีการทำโครงการสร้างสุสานขนาด 100 หลุม ยื่นขออนุมัติทางการเมื่อเดือนมีนาคม 2019 โดยตามกฎหมายจะต้องมีการเปิดทำประชาพิจารณ์ 5 ครั้ง
เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ชาวบ้านประมาณ 100 คนใน 2 เขตท้องถิ่น ได้ยื่นคำร้องต่อนายกเทศมนตรี เพื่อคัดค้านแผนดังกล่าว โดยมีการอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับน้ำเสีย ที่อาจจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่อยู่ห่างออกไป 1.2 กม.และมีระดับต่ำกว่าพื้นที่สุสาน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็ยอมรับว่า ที่ดินดังกล่าวตรงตามเกณฑ์สำหรับสุสานทั่วไป และทางการกำลังตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองฮิจิ ระบุว่า การตรวจสอบอาจจะต้องใช้เวลานาน และว่า เรื่องนี้ควรได้รับการตัดสินโดยอาศัยศาสนพิธีและสิ่งอื่น ๆ ประกอบกันด้วย
นาย ฮิโรฟูมิ ทานาดะ ศาสตราจารย์กิตติคุณ มหาวิทยาลัยวาเซดะ และผู้เชี่ยวชาญด้านชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น กล่าวว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีชาวมุสลิมประมาณ 230,000 คน อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยราว 15,000 คน อาศัยอยู่ในเกาะคิวชู และจังหวัดโอกินาวา
ที่มา: www.japantimes.co.jp