องค์กรยิวเร่งแก้ปัญหา หลังหญิงชาวยิวหันมาแต่งงานกับมุสลิมมากขึ้น

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ :  องค์กรยิวเร่งแก้ปัญหา หลังหญิงชาวยิวหันมาแต่งงานกับมุสลิมมากขึ้น

องค์กร Lehava ในอิสราเอล ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติการดูดซึมชาวยิวเข้าสู่ศาสนาอิสลาม ได้ออกมาหาทางแก้ไขในเรื่องการแต่งงานแบบผสมผสานระหว่างชาวยิวกับชาวอาหรับมุสลิม ซึ่งถูกมองว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันที่มีปัญหาขัดแย้งกันอยู่แล้ว

ในปี 2017 หญิงสาวชาวยิวจากภาคใต้ของอิสราเอล เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม และแต่งงานกับชาวอาหรับมุสลิมที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล เรื่องราวดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับคนทั้งประเทศ ปกติแล้วชาวอิสราเอลไม่ได้มองเรื่องดังกล่าวในแง่บวก เพราะมีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่ยาวนาน รวมทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการหลั่งเลือด และการยั่วยุซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้ผู้คนไม่เข้าใจว่า มีสิ่งใดที่ผลักดันให้หญิงสาวกล้าตัดสินใจแต่งงานกับศัตรูได้

ในปี 2005 นาง Anat Gopstein และสามีของเธอ ก่อตั้งองค์กร Lehava ขึ้น โดยอ้างว่า เพื่อช่วยให้หญิงสาวชาวยิวที่หลงผิดหันกลับมาเดินในทางที่ถูก และยุติการดูดกลืนชาวยิวในอิสราเอลไปสู่อิสลาม แม้หลายคนในอิสราเอลจะพิจารณาว่า องค์กร Lehava เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวขวาจัดสุดโต่งขาวยิว ซึ่งพยายามปลุกปั่นและสร้างความหวาดกลัว แต่ Anat กล่าวว่า เธอจะไม่ยอมหยุดยั้งกิจกรรมขององค์กร ในการช่วยให้ผู้ที่เปลี่ยนใจหันกลับมาสู่ศาสนายิว และช่วยเหลือเยาวชนที่มีปัญหาเรื่องภูมิหลังจนเข้ากับสังคมไม่ได้ รวมทั้งช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายให้กลับมามีชีวิตปกติ

Anat กล่าวว่า ปัจจุบันเธอมีเคสให้เข้าช่วยเหลือเฉลี่ย 5 เคสต่อวัน บางส่วนมาจากผู้หญิงที่เปลี่ยนศาสนาและต้องการหาทางออกกลับสู่ศรัทธาดั้งเดิม บางส่วนได้รับการแจ้งจากครอบครัวหรือคนรู้จัก ซึ่งรู้ว่าบุคคลนั้น ๆ กำลังมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม และต้องการสอดมือเข้าไปช่วยเหลือ

Anat กล่าวว่า “เป็นการยากที่จะให้ตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่เรารู้ว่า กรณีของการเปลี่ยนศรัทธากำลังเพิ่มสูงขึ้น เพราะกระบวนการดึงดูดชาวยิวเข้าสู่อิสลามในอิสราเอลก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน”

สถิติที่อาจจะยืนยันได้บ้าง เช่น ในปี 2546 ตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า มีชาวอิสราเอลเพียง 40 คน เท่านั้นที่เปลี่ยนมานับถืออิสลาม แต่ในปี 2549 ตัวเลขเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า โดยมีการลงทะเบียนถึง 70 ราย ตั้งแต่นั้นมา แนวโน้มดังกล่าวก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี 2548 – 2550 มีชาวอิสราเอล 250 คน เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามอย่างเป็นทางการ ในจำนวนนี้หลายคนเป็นสตรี

Anat กล่าวว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะฝ่ายหญิงต้องเปลี่ยนมาเข้ารับอิสลามหากจะแต่งงานกับชายมุสลิม ซึ่งสิ่งนี้สร้างปัญหาให้กับองค์กร เพราะพวกเขาพรากหญิงยิวไปจากศาสนาเดิมของเธอ

ในเรื่องการแต่งงาน ศาสนายิวเข้มงวดน้อยกว่าอิสลาม ในศาสนายูดายกรณีทายาทจากการแต่งงานระหว่างพ่อแม่ที่นับถือคนละศาสนา มีธรรมเนียมอยู่ว่า หากฝ่ายหญิงนับถือศาสนายูดายลูกจะเป็นยิวตามมารดา แต่ในเมื่อพวกเด็ก ๆ อาศัยอยู่ในบ้านบิดาที่เป็นชาวอาหรับ เด็ก ๆ เหล่านี้จะถูกหล่อหลอมจากศาสนาของบิดา และเมื่อพวกเขาโตขึ้น พวกเขาจะเลือกแต่งงานกับชาวอาหรับ และออกจากความเป็นยิวในที่สุด

มีความไม่แน่ชัดในขนาดขององค์กร Lehava รวมทั้งจำนวนคนทำงานในองค์กรนี้ จากการประมาณการพบว่าน่าจะมีอาสาสมัครทำงานจำนวนมาก ส่วนพนักงานประจำน่าจะมีไม่กี่สิบคน

ที่มา: www.sputniknews.com

 http://news.muslimthaipost.com/news/34782

•  รัฐอุตรประเทศ เสนอกม.พิสูจน์ Love Jihad คุก 10 ปี
• จับหนุ่มใหญ่ปากีฯ บังคับแต่งงานเด็กสาว 13 ปี 
• อิหม่ามมัสยิดอัล-อักซอเรียกร้อง ผู้นำมุสลิมทำตามนโยบายผู้นำตุรกี
• เผยประวัติน่าสนใจ มัสยิดชาห์ เจฮาน ครบ 131 ปี
• เอมิเรตส์เปิดเวทีประชุมเพื่อส่งเสริมสันติภาพในสังคมมุสลิม ครั้งที่ 7
• รมต.ยิวเปิดโปง เนทันยาฮูดอดพบมกุฎราชกุมารซาอุฯ
• เสียงเรียกของลูกดังจากมัสยิด ทำให้ครูสอนเต้นระบำอินเดียเข้ารับอิสลาม