มัสยิดแห่งนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่หาได้ยาก เนื่องจากสามารถรอดจากการถูกทำลายในสงครามโลกถึง 2 ครั้ง และผ่านมากว่า 130 ปี มัสยิดแห่งนี้เพิ่งถูกปิดครั้งแรกจากสาเหตุโรคระบาด
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: เผยประวัติน่าสนใจ มัสยิดชาห์ เจฮาน ครบ 131 ปี
เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาครบรอบ 131 ปี ของมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอังกฤษ นั่นคือ มัสยิด ชาห์ เจฮาน ในเซอร์เร่ย์ (The Shah Jahan Mosque), โว้คกิ้ง แต่การเฉลิมฉลองไม่อาจทำได้เนื่องจากมาตรการปิดมัสยิด และศาสนสถานทั่วประเทศอังกฤษ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิต-19
โมฮัมมัด ฮาบิบ ผู้จัดการมัสยิดชาห์ เจฮาน กล่าวว่า มัสยิดแห่งนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่หาได้ยาก เนื่องจากสามารถรอดจากการถูกทำลายในสงครามโลกถึง 2 ครั้ง และผ่านมากว่า 130 ปี มัสยิดแห่งนี้เพิ่งถูกปิดครั้งแรกจากสาเหตุโรคระบาด ซึ่งแม้ชุมชนจะได้จัดให้มีการเชื่อมต่อให้เห็นการปฏิบัติศาสนกิจทางออนไลน์ แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก็ไม่สามารถทดแทนความต้องการมาร่วมละหมาดพร้อมกันที่มัสยิดได้
มัสยิดชาห์ เจฮาน สร้างขึ้นในยุควิคตอเรียของอังกฤษ (พ.ศ.2432) เป็นมัสยิดที่รุ่มรวยความหลากหลาย เพราะสร้างโดยนักภาษาศาสตร์ชาวยิว ออกแบบโดยสถาปนิกชาวคริสเตียนจากกิลด์ฟอร์ด ชื่อ วิลเลียม ไอแซค แชมเบอร์ส และผู้ที่จ่ายเงินสร้างคือ เจ้าหญิงเบกุม ชาห์ เจฮาน แห่งอินเดีย ซึ่งมีการตั้งชื่อมัสยิดตามชื่อของเธอ
ผู้สร้างมัสยิดคือ ดร.Gottlieb Wilhelm Leithner ซึ่งถือกำเนิดในประเทศฮังการี มีบิดา-มารดาเป็นชาวยิว และพูดได้ถึง 15 ภาษา ซึ่งรวมทั้งภาษาอาหรับ เปอร์เชีย และอีกหลายภาษาที่พูดกันในประเทศแถบยุโรป ในตอนแรกเขาเดินทางมาประเทศอังกฤษ เพื่อศึกษาระดับปริญญาที่มหาวิทยาลัย King’s College ในกรุงลอนดอน และไปใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในลาฮอร์ ปากีสถาน แต่เมื่อกลับมายังประเทศอังกฤษเขากลับมุ่งหวังที่จะสร้างศาสนสถานให้กับมุสลิมชาวอังกฤษ
ในขณะที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า มัสยิด Quilliam ในเมืองลิเวอร์พูล สร้างขึ้นก่อนมัสยิดชาห์ เจฮาน แต่มัสยิดชาห์ เจฮาน เป็นอาคารแห่งแรกในสหราชอาณาจักรที่สร้างขึ้นโดยมุ่งหวังให้เป็นมัสยิดเพียงสถานเดียว
หลังจากที่ ดร.Leitner เสียชีวิตไปในปี 2442 มัสยิดถูกทิ้งร้าง เนื่องจากความต้องการใช้มัสยิดมีน้อยลงในช่วงนั้น มัสยิดเกือบถูกขายโดยลูกชายของ ดร. Leitner แต่บังเอิญที่มีทนายความมุสลิมอินเดีย คือ นาย ควาจา คามาลุดดีน ที่สามารถขจัดปัญหาต่าง ๆ จนทำให้มัสยิดยังคงอยู่ได้ต่อมา โดยการชักชวน ลอร์ด เฮดลีย์ ซึ่งเป็นคนระดับสูงในอังกฤษให้เข้ามาร่วมดำเนินการมัสยิด ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงหนึ่งของมัสยิดนี้ คือ ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีผู้อพยพจากอินเดียและปากีสถานเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ชุมชนมุสลิมขยายตัวขึ้น มัสยิดได้รับสถานะอาคารจดทะเบียนเมื่อเดือนมกราคม 2527 และได้รับการแก้ไขสถานะล่าสุดในปี 2561
ที่มา: www.getsurrey.co.uk
http://news.muslimthaipost.com/news/34750
- มัสยิดอายุหลายร้อยปีในซาอุฯ บูรณะขั้นสุดท้ายใกล้สำเร็จแล้ว!
- พบมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- มัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในเลสโวส เตรียมบูรณะใหม่
- มัสยิดกุบา เปิดต้อนรับศรัทธาชนตลอด 24 ชั่วโมง
- มัสยิดใหม่ในอโยธยา อาจมีทรงสี่เหลี่ยมคล้ายกะอฺบะอฺ
- มัสยิดสร้างด้วยโครน เก่าแก่แห่งภาคฮาอีล 105 ปี
- อิสราเอลขุดพบซากเมืองโบราณ 5,000 ปี (ชมภาพ)