ขบวนการฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า ตัดสินใจจำกัดความสัมพันธ์กับชาวคริสเตียน โดยห้ามมมุสลิมในฉนวนกาซ่าร่วมงานคริสต์มาส
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ฮามาสสั่งห้ามมุสลิมร่วมฉลองคริสต์มาสในฉนวนกาซ่า
ขบวนการฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า ตัดสินใจจำกัดความสัมพันธ์กับชาวคริสเตียน โดยห้ามมมุสลิมในฉนวนกาซ่าร่วมงานคริสต์มาส ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก โดยเฉพาะชาวคริสเตียนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซ่า
ดร.วาลิด โอไวดะฮ์ ผู้อำนวยการทั่วไปด้านการเผยแผ่และแนะแนวอิสลาม ในกระทรวงกิจการกุศลวะกัฟ และกรมการศาสนา เป็นผู้ออกข้อจำกัดซึ่งไม่เกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิต-19 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยหนังสือดังกล่าวได้ส่งให้กับ ดร.อับเดลฮาดี อัล-อาฮา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวะกัฟและกิจการกุศลทางศาสนา
ฮามาสได้ออกมาปกป้องข้อจำกัดดังกล่าว และว่า เป็นการใช้บังคับกับมุสลิมที่ไปร่วมงานฉลองที่ไม่ใช่ประเพณีของมุสลิมเท่านั้น โดยมีการตั้งมาตรการ เช่น การออกฟัตวา และการรณรงค์ทางออนไลน์เกี่ยวกับความจำเป็นในการกำหนดข้อจำกัดในการเฉลิมฉลอง และเอกสารนี้ยังเชิญชวนให้ผู้บรรยายมุสลิม และสื่อมวลชนเข้าร่วมในการรณรงค์นี้ด้วย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวคริสเตียนในฉนวนกาซ่าลดลงอย่างมาก โดยในปี 2009 มีชาวคริสเตียนในฉนวนกาซ่า ราว 3,000 คน แต่ทุกวันตัวเลขลดลงเหลือไม่ถึง 1,000 คน
ชาวปาเลสไตน์หลายคนประณามการเคลื่อนไหวของฮามาสในครั้งนี้ ว่าเป็นแบ่งแยก และกล่าวว่า ดูจะเป็นสัญญาณของแนวคิดแบบอิสลามหัวรุนแรง ที่เข้ามาเผยแพร่ในฉนวนกาซ่า นักสิทธิมนุษยชนยังลงความเห็นว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการละเมิดอย่างชัดเจน ทั้งคำประกาศอิสรภาพของปาเลสไตน์ และกฎหมายพื้นฐาน ซึ่งยอมรับสิทธิในการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาทุกศาสนาอย่างเสรี
นอกจากนี้ ยังเตือนถึงอันตรายของการเคลื่อนไหวนี้ว่า เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา นิกาย และจะกลายเป็นการรับใช้ศัตรูซึ่งต้องการให้เกิดความแตกสามัคคีอยู่แล้ว
ที่มา: www.jpost.com