กษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 6 แห่งโมร็อกโก เสด็จออกต้อนรับการเมาเยือนของคณะผู้แทนจากสหรัฐฯ และอิสราเอล ที่พระราชวังในกรุงราบัต
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : กษัตริย์โมร็อกโกต้อนรับคณะผู้แทนจากสหรัฐ – อิสราเอล
ราบัต – กษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 6 แห่งโมร็อกโก เสด็จออกต้อนรับการเมาเยือนของคณะผู้แทนจากสหรัฐฯ และอิสราเอล ที่พระราชวังในกรุงราบัต
นายจาเร็ต คุชเนอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว และลูกเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้นำคณะผู้แทนจากอิสราเอลมายังโมร็อกโก ด้วยเครื่องบินที่บินตรงจากอิสราเอลเป็นครั้งแรก หลังจากทั้งสองประเทศตกลงที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบระหว่างกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
สมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ด ที่ 6 ทรงกล่าวย้ำถึงความพึงพอใจอย่างที่สุด ต่อผลการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 ทรงย้ำถึงจุดยืนที่คงที่และไม่เปลี่ยนแปลงของราชอาณาจักรโมร็อกโกต่อปัญหาปาเลสไตน์ นั่นคือการสนับสนุนให้มีการแก้ปัญหาโดยการตั้งรัฐสำหรับชาวปาเลสไตน์ เคียงข้างกับรัฐอิสราเอล เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและปลอดภัย อันเป็นหนทางเดียวในการบรรลุข้อยุติที่ครอบคลุมและถาวร รวมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งอัล-กุดส์ ในการปกป้องสัญลักษณ์แห่งอิสลาม ณ สถานที่ดังกล่าว
ในช่วงท้ายของการเข้าเฝ้า ได้มีการลงนามในคำประกาศร่วมระหว่าง ราชอาณาจักรโมร็อกโก สหรัฐอเมริกา และรัฐอิสราเอล โดย นายซาอัด เอดดีน เอล อ๊อตมานี หัวหน้าคณะรัฐบาลโมร็อกโก นายจาเรต คุชเน่อร์ และนายเมียร์ เบน-ชับบัต ผู้แทนอิสราเอล โดยกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 ทรงเป็นสักขีพยาน
สาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วม ได้แก่ การกำหนดถ้อยแถลงของสหรัฐ ฯ เกี่ยวกับการยอมรับอำนาจอธิปไตย์ของโมร็อกโก เหนือดินแดนซาฮาร่าตะวันตกทั้งหมด และยืนยันการสนับสนุนของสหรัฐ ฯ ต่อข้อเสนอการปกครองตนเองที่จริงจัง น่าเชื่อถือ ของโมร็อกโก สำหรับการเป็นพื้นฐานเดียวในการแก้ปัญหาข้อพิพาทดินแดนดังกล่าวอย่างเที่ยงธรรม
ทั้ง 3 ประเทศยังกำหนดว่า สหรัฐฯ จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับโมร็อกโก รวมทั้งในดินแดนซาฮาร่าตะวันตก และจะมีการเปิดสถานกงสุลในดินแดนซาฮาร่าตะวันตก ที่ Dakhla เพื่อส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ และโอกาสทางการค้าที่เปิดสำหรับผู้มิภาคนี้
ทั้ง 3 ประเทศตระหนักถึงบทบาททางประวัติศาสตร์ ที่โมร็อกโกสร้างความสามัคคีระหว่างประชาชน ส่งเสริมสันติภาพ และเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และคำนึงถึงความเชื่อมโยงพิเศษที่กษัตริย์ทรงดูแลชุมชนฃาวยิวที่อาศัยอยู่ในโมร็อกโก ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และในอิสราเอล
ที่มา: www.middle-east-online.com