ทางการสิงคโปร์เปิดเผยว่า ได้จับกุมหนุ่มชาวอินเดีย นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแทสแท้นท์ ซึ่งวางแผนเตรียมก่อการร้ายที่มัสยิดโดยการใช้มีดขนาดใหญ่เข้าไปทำร้ายชาวมุสลิม
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: จับวัยรุ่นวางแผนโจมตี 2 มัสยิดสิงคโปร์
มัสยิด 2 แห่งในสิงคโปร์ ได้แก่ มัสยิดอัสยาฟาฮ์ และมัสยิดยูซุฟ อิสฮัค ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ยังคงเปิดต้อนรับศรัทธาชนแม้จะตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย เพียงแต่มีการเพิ่มมาตรการตรวจตราอย่างเข้มงวดขึ้นเท่านั้น
เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ทางการสิงคโปร์เปิดเผยว่า ได้จับกุมหนุ่มชาวอินเดีย นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแทสแท้นท์ ซึ่งวางแผนเตรียมก่อการร้ายที่มัสยิดโดยการใช้มีดขนาดใหญ่เข้าไปทำร้ายชาวมุสลิม
หน่วยความมั่นคงภายในของสิงคโปร์ ระบุว่า เขาได้รับแรงจูงใจจากเหตุก่อการร้ายที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 2019 ซึ่งในครั้งนั้นผู้ก่อเหตุเป็นคนผิวขาว ชาวออสเตรเลีย ที่มีแนวคิดเหยียดเชื้อชาติ บุกเข้าไปกราดยิงในมัสยิด 2 แห่งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 ราย
เมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้นำมุสลิมและคริสเตียนในสิงคโปร์ พบปะกันที่มัสยิด 1 ใน 2 แห่งดังกล่าว เพื่อลงนามความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ในขณะที่ศรัทธาชนขาวสิงคโปร์ยังคงเดินทางมายังมัสยิดทั้งสองแห่งด้วยความมั่นใจ แม้พวกเขาจะยังลังเลที่จะนำบุตรหลานมายังมัสยิดก็ตาม
ผู้นำสภาศาสนาอิสลามแห่งสิงคโปร์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงภัยคุกคามผ่านทางออนไลน์ และได้ประณามการกระทำที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความรุนแรง ซึ่งจะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน
ผู้นำสภาคริสตจักรแห่งชาติของสิงคโปร์ กล่าวว่า พวกเขาขอให้ความมั่นใจกับเพื่อนมุสลิม ว่า ไม่มีความเกลียดชังในระหว่าง 2 ชุมชนในสิงคโปร์
ที่ผ่านมา ชาวมุสลิมในสิงคโปร์ไว้วางใจรัฐบาลว่าสามารถปกป้องพวกเขาจากภัยคุกคาม และการก่อการร้าย โรฮาน กูนารัตนา ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาถึงความปลอดภัย ประจำสถาบัน S”Rajaratnam School of Internationsl Studies กล่าวว่า ความเชี่ยวชาญของผู้ก่อการร้ายในโลกไซเบอร์เป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้น และว่า รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องติดตามเพื่อตอบโต้การชักจูงใจของผู้ก่อการร้ายในด้านนี้
อย่างไรก็ตาม ทางการไม่ได้เปิดเผยชื่อและอัตลักษณ์ของผู้วางแผนก่อการร้ายครั้งนี้ เนื่องจากเขาเป็นนักเรียนที่มีอายุเพียง 16 ปี ซึ่งมีแรงจูงใจจากการต่อต้านอิสลาม และหลงใหลในความรุนแรง
สิงคโปร์ มีประชากรทั้งประเทศประมาณ 5.7 ล้านคน
ที่มา: www.dailymail.co.uk