สมาคมอิสลามแห่งมาเลเซีย ได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวแคชเมียร์ และเรียกร้องให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: เรียกร้องยุติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มุสลิมในแคชเมียร์
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สมาคมอิสลามแห่งมาเลเซีย ได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวแคชเมียร์ และเรียกร้องให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งกระทำโดยกองกำลังความมั่นคงของทางการอินเดีย ซึ่งแม้จะก่ออาชญากรรมต่อประชาชนก็จะไม่ต้องรับโทษใด ๆ
เนื่องในวัน Kashmir Solidarity Day นายโมฮัมมัด อัซมี่ อับดุลฮามิด ประธานสภาที่ปรึกษาแห่งชาติของมาเลเซีย ได้กล่าวในแถลงการณ์ ว่า นับตั้งแต่ปี 1947 เป็นต้นมา ชาวแคชเมียร์มากกว่า 700,000 คน ส่วนมากเป็นพลเรือน ได้ถูกสังหารในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่เกิดขึ้นในรัฐจัมมูแคชเมียร์ ที่อยู่ในการปกครองของอินเดีย เขาได้เรียกร้องให้โลกยืนหยัดเคียงข้างแคชเมียร์ อย่าเงียบหรือเพิกเฉยต่อชะตากรรมของแคชเมียร์ ซึ่งหมายถึงเป็นการทรยศต่อหลักการของมนุษยชาติ
ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ทุกปี ซึ่งเป็นวัน Kashmir Solidarity Day ฝ่ายบริหารจัมมู-แคชเมียร์ ฝั่งปากีสถาน ชาวแคชเมียร์พลัดถิ่น และกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์ของพวกเขา จะจัดการสัมมนา การประชุม และการชุมนุม เพื่อสนับสนุนชาวแคชเมียร์ที่อยู่ในเขตการปกครองของอินเดีย
วัน Kashmir Solidarity Day ก่อตั้งขึ้นโดย นายกอซี ฮุสเซน อะหมัด อดีตผู้นำกลุ่มการเมือง-ศาสนา ของปากีสถาน เมื่อปี 1990 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รัฐบาลปากีสถาน และชาวแคชเมียร์พลัดถิ่นที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ ก็ได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้น รวมทั้งเรียกร้องให้ช่วยกันประณาม การละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่กระทำโดยฝ่ายปกครองอินเดีย
แคว้นแคชเมียร์ มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม พื้นที่ตั้งอยู่ใกล้เทือกเขาหิมาลัย ต่อมาถูกแบ่งแยกเป็นส่วน ๆ โดยมีอินเดีย ปากีสถาน ถือครองส่วนใหญ่ 2 ส่วน และยังมีส่วนเล็ก ๆ อีกบางส่วนที่อยู่ในการปกครองของประเทศจีน
นับตั้งแต่การถูกแบ่งแยกในปี 2490 ปากีสถานและอินเดีย ได้ทำสงครามกัน 3 ครั้ง ในปี 2490 – 2508 และ 2514 เนื่องจากความขัดแย้งในพื้นที่ ชาวมุสลิมแคชเมียร์บางกลุ่มในแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ ที่ปกครองโดยอินเดีย กำลังต่อสู้กับฝ่ายปกครองเพื่อหาทางได้รับเอกราช หรือเข้ารวมกับปากีสถานที่อยู่ใกล้เคียง
องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งยืนยันว่า นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ตั้งแต่ปี 1989 มีประชาชนเสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน
ที่มา: www.aa.com.tr
http://news.muslimthaipost.com/news/34941
- มัสยิดเมียนมาร์แจกอาหารฟรีไม่เลือกศาสนา
- ระทึกไฟไหม้ ค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญา ไร้หลังคาคุ้มหัวกว่า 3,000 คน
- ทวิตเตอร์ลุกเป็นไฟ! หลังให้ผู้นำอิหร่านประณามสหรัฐฯ-เอมิเรตส์
- อาเจะกระตุ้น ปธน.อินโดนีเซีย ต่อสู้เพื่อมุสลิมอุยกูร์
- สุสานมุสลิมแห่งแรก ควีเบค เปิดเข้าชมฤดูใบไม้ผลิ
- ผู้นำแคนาดา-เนเธอร์แลนด์ ร่วมหนุนแกมเบีย ฟ้องเอาผิด 'ซูจี' ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงยา
- นักวิชาการปาเลสไตน์เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอิสราเอล
- มาร์มาคุค พิคัล ชาวอังกฤษคนแรกผู้แปลอัล-กุรอาน