สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส จะเสด็จเยือนอิรักเป็นเวลา 4 วัน เริ่มในวันที่ 5 มีนาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะเป็นการเดินทางครั้งแรกหลังจากงดเว้นไป 15 เดือน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: โป๊ปฟรานซิสไม่งดเสด็จเยือนอิรัก แม้โควิดยังไม่จาง
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส จะเสด็จเยือนอิรักเป็นเวลา 4 วัน เริ่มในวันที่ 5 มีนาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะเป็นการเดินทางครั้งแรกหลังจากงดเว้นไป 15 เดือน เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยพระองค์จะเสด็จเยือนเมืองโมซุล ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองนิเนเวฮ์ (Nineveh) ที่ถูกระบุไว้ในคัมภีร์ไบเบิล และเคยมีโบสถ์ 4 แห่ง ของศาสนาคริสต์นิกายต่าง ๆ ตั้งอยู่รอบจัตุรัสเล็ก ๆ แวดล้อมด้วยชุมชนชาวคริสต์ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงบทบาทของคริสเตียนที่เคยเฟื่องฟูในอิรัก
โบสถ์ของ 4 นิกาย ได้แก่ Syriac Catholic, Syriac Orthodox, Armenian Orthodox และ Chaldean Catholic เคยตั้งอยู่ในและรอบจัตุรัส ที่ขณะนี้เต็มไปด้วยฝุ่น และซากปรักหักพังเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของเมือง อาคารได้รับความเสียหายหลังจากการโจมตีของกลุ่ม ISIS ซึ่งเข้าครองพื้นที่ระหว่างปี 2014 – 2017
อาร์คบิช้อป นาจี๊บ มิชาเอล แห่งโมซุลและอัครา และจัตุรัสเชิร์ช (Church Square) ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งให้กับพื้นที่ที่สันตะปาปาจะเสด็จเยือนครั้งประวัติศาสตร์ ในวันที่ 7 มีนาคม กล่าวว่า ที่ราบแห่งนิเนเวฮ์ เคยมีความคล้ายคลึงกับเยรูซาเล็ม ก่อนการรุกรานของสหรัฐ ในปี 2003 คริสเตียนในอิรักจากนิกายต่าง ๆ จะเข้าร่วมงานเทศกาลทางศาสนาของกันและกันอย่างกลมเกลียว
ก่อนปี 2003 ชาวคริสเตียนในอิรักเคยมีอยู่มากกว่า 1,500,000 คน พวกเขาได้รับการยอมรับจาก ซัดดัม ฮุสเซน แต่ถูกข่มเหงโดยกลุ่มอัล-กออิดะฮ์ และ ISIS ปัจจุบันชาวคริสเตียนในอิรักเหลือเพียงประมาณ 300,000 คน และมีเพียงโบสถ์ในเมืองโมซุลเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้เข้าทำพิธีสวดในทุกวันอาทิตย์ เมืองโมซุลเคยมีชาวคริสเตียนราว 50,000 คน ลดน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่สิบครอบครัว เพราะส่วนหนึ่งหลบหนีภัยหลังจากการพ่ายแพ้ของ ISIS ในขณะที่ครอบครัวอื่น ๆ กำลังมองหาสถานที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศอื่น ๆ
อนัส ซัยยิด ผู้ช่วยประสานงานภาคสนามให้กับ UNESCO ในอิรัก กล่าวว่า โบสถ์ Syriac Catholic แห่ง Al-Tahera กำลังได้รับการบูรณะโดยยูเนสโก้ ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ และได้รับทุนจากประเทศเอมิเรตส์ โบสถ์แห่งนี้สร้างจากหินอ่อนอะลาบาสเตอร์สีเทา หรือที่รู้จักกันในนาม “หินอ่อนโมซุล” ที่มีความละเอียดอ่อน ใกล้กับโบสถ์แห่งนี้คือ โบสถ์อาร์เมเนียน ออร์โธดอกซ์ ซึ่งยังคงปิดอยู่
อะลี ซาเล็ม จากคณะกรรมการโบราณวัตถุและมรดกแห่งรัฐของอิรัก กล่าวว่า ในฐานะมุสลิม เขาภูมิใจที่ได้ช่วยสร้างคริสตจักรเหล่านี้ขึ้นใหม่ และหวังจะเห็นเพื่อนชาวคริสเตียนกลับมายังสถานที่เหล่านี้ เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้งเหมือนในหลายศตวรรษที่ผ่านมา
ที่มา: www.reuters.com