สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศล่าสุดในยุโรปที่จะมีการสั่งห้ามแต่งการแบบนิกอบ ซึ่งเป็นการปกปิดใบหน้าและเปิดเผยเฉพาะดวงตา
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: สวิตเซอร์แลนด์สั่งห้ามแต่งกายปิดหน้า
สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นประเทศล่าสุดในยุโรปที่จะมีการสั่งห้ามแต่งการแบบนิกอบ ซึ่งเป็นการปกปิดใบหน้าและเปิดเผยเฉพาะดวงตา
ในการลงประชามติเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุนการห้ามแต่งกายแบบนิกอบในที่สาธารณะ สามารถเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด (51.2 %) ประชามตินี้จะมีผลผูกพันนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพวกเขามั่นใจว่าการห้ามดังกล่าวจะสามารถต่อต้านกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง แต่ในขณะเดียวกันมันเป็นการแสดงถึงการเลือกปฏิบัติ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสวิส ฯ ได้เรียกร้องให้ประชาชนลงคะแนน ‘ไม่เห็นด้วย’ กับการห้ามแต่งกายแบบปิดหน้า กลุ่มที่เคยจัดให้มีการลงประชามติ ห้ามสร้างหออะซานใหม่ในประเทศสวิส ฯ ในปี 2009 เป็นผู้เสนอให้มีการจัดลงประชามติในครั้งนี้
มหาวิทยาลัยลูเซิร์น แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ประเมินว่า ไม่มีผู้สวมชุดแบบบูรก้าในสวิตเซอร์แลนด์ และมีสตรีมุสลิมทั่วประเทศราว 30 คนเท่านั้นที่สวมใส่ชุดแบบนิกอบ
สวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรมุสลิมราวร้อยละ 5 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ 8.6 ล้านคน ส่วนมากเป็นผู้มีเชื้อนสายตุรกี บอสเนีย และโคโซโว
นโยบายที่พยายามควบคุมการแต่งกายแบบนิกอบ หรือบูรก้า เริ่มขยายตัวมากขึ้นในประเทศยุโรป เริ่มจากฝรั่งเศสที่ออกกฎหมายห้ามแต่งนิกอบในที่สาธารณะเป็นประเทศแรก ในปี 2010 การบังคับใช้กฎหมายของฝรั่งเศสได้รับการยืนยัน โดยศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ในปี 2014 ซึ่งพิพากษาว่าการห้ามแต่งกายแบบปกปิดใบหน้า ไม่ได้เป็นการละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนา
หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้ในฝรั่งเศส มีผู้ถูกจับกุมเพราะละเมิด 1,600 ราย การละเมิดกฎหมายนี้มีผลให้ถูกปรับไม่เกิน 150 ยูโร หรือประมาณ 5,300 บาท
ประเทศเบลเยียม เป็นประเทศที่ 2 ที่ออกกฎหมายห้ามแต่งกายแบบนิกอบในที่สาธารณะในปี 2011 ประเทศบัลแกเรีย ออกกฎหมายห้ามในปี 2016 ตามมาด้วยประเทศออสเตรีย ในปี 2017 และเดนมาร์ก ในปี 2018
ในประเทศเนเธอร์แลนด์ มีการออกกฎหมายห้ามสวมนิกอบในสถาบันการศึกษา สถานที่ราชการ โรงพยาบาล และบนรถโดยสารสาธารณะ ในปี 2019 แต่ยังพบว่ามีผู้สวมนิกอบเดินตามถนนบ้าง ส่วนในประเทศนอร์เวย์ มีการสั่งห้ามสวมนิกอบ สำหรับเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนและสถานดูแลเด็กเล็ก
ที่มา: www.ednh.news