เจ้าชายฮัมซะห์ อดีตมกุฎราชกุมาร ในสมัยที่พระบิดาของกษัตริย์อับดุลเลาะฮ์ ที่ 2 ทรงครองราชย์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามยึดอำนาจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: เจ้าชายฮัมซะห์ ทรงขัดขืน-ไม่นิ่งเงียบหลังถูกกักตัวในวัง
หลังจากมีรายงานว่า เจ้าชายฮัมซะห์ วัย 41 ปี อดีตมกุฎราชกุมาร ในสมัยที่พระบิดาของกษัตริย์อับดุลเลาะฮ์ ที่ 2 ทรงครองราชย์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามยึดอำนาจ พระองค์ถูกกองทัพสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในวังที่ประทับ แต่ทรงกล่าวว่า จะไม่ยอมทำตามคำสั่ง และไม่ยอมนิ่งเงียบ แต่จะท้าทายการจำกัดเสรีภาพการเคลื่อนไหวของพระองค์
เจ้าชายฮัมซะห์ กล่าวในการบันทึกเสียง ที่ส่งถึงผู้ติดต่อของพระองค์และฝ่ายค้านในจอร์แดน และมีการนำมาเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ในตอนนี้พระองค์ยังไม่อยากเคลื่อนไหวอะไรมาก แต่แน่นอนว่า จะทรงไม่เชื่อฟังคำสั่งของกองทัพ ที่ห้ามออกไปนอกวัง ห้ามทวีตข้อความ ห้ามติดต่อสื่อสารกับผู้คน และว่า พระองค์ได้รับอนุญาตให้ได้พบเพียงบุคคลในครอบครัวเท่านั้น
รองนายกรัฐมนตรีประเทศจอร์แดน เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า เจ้าชายฮัมซะห์ มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างชาติ เพื่อร่วมกันก่อแผนการร้ายที่จะสร้างความไม่มั่นคงให้กับประเทศชาติ
วันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา กองทัพจอร์แดน แถลงว่า ได้มีการออกคำเตือนเจ้าชายฮัมซะห์ เกี่ยวกับการกระทำอันมีเป้าหมายที่จะทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพ ในราชอาณาจักรจอร์แดน
เจ้าชายฮัมซะห์ เคยดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารจอร์แดน แต่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี 2004 หลังจากนั้น พระองค์ได้กลายเป็นแกนนำผู้วิจารณ์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของจอร์แดน โดยกล่าวหาว่า มีการทุจริต การเล่นพรรคเล่นพวก และการปกครองแบบเผด็จการ
ในวิดีโอ ที่พระองค์ส่งไปยังสำนักข่าว BBC เมื่อวันที่ 3 เมษายน พระองค์ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการ และว่า พระองค์ถูกนายพลยูสเซฟ ฮูนัยตี นายทหารอาวุโสของกองทัพสั่งกักบริเวณในที่พัก
ไม่มีความชัดเจนว่า เหตุใดราชอาณาจักรจึงดำเนินการกับเจ้าชายฮัมซะห์ในช่วงนี้ แต่มีรายงานว่า พระองค์ได้เสด็จเยี่ยมเยียน หรือไปร่วมการประชุมของชนเผ่าต่าง ๆ บ่อยครั้ง ซึ่งบางคนในกลุ่มชนเผ่าเหล่านี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์
สหรัฐอเมริกาและประเทศมหาอำนาจในอ่าวอียิปต์ รวมทั้งสันนิบาตอาหรับ ออกมาแสดงการสนับสนุนกษัตริย์อัลดุลเลาะฮ์ ที่ 2 อย่างรวดเร็ว จอร์แดนมีประชากรเพียง 10 ล้านคน แต่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เพราะมีพรมแดนติดต่อกับอิสราเอล เขตยึดครองเวสต์แบ๊งค์ ของปาเลสไตน์ ซีเรีย อิรัก และซาอุดิอาระเบีย
จอร์แดนเป็นที่ตั้งของค่ายทหารสหรัฐอเมริกา และเป็นที่พำนักอาศัยของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ที่ถูกเนรเทศออกจากบ้านเกิดเมืองนอนหลายล้านคน รวมทั้งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอีกมากกว่าครึ่งล้านคนฃ
ที่มา: www.aljazeera.com