นายกมาเลย์ ประกาศล็อคดาวน์ทั้วประเทศ ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม – 7 มิถุนายน ศกนี้
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: นายกมาเลย์ ประกาศล็อคดาวน์ทั้วประเทศ วันอีดไม่มีข้อยกเว้น
นายกมาเลย์ ประกาศล็อคดาวน์ทั้วประเทศ ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม – 7 มิถุนายน ศกนี้
นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ตัน สรี มุฮฺยิดดิน ยาสซิน ประกาศให้ทั่วประเทศอยู่ภายใต้ “คำสั่งควบคุมการเคลื่อนที่ - MCO” นับตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม ถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวล
นายกรัฐมนตรี กล่าวในแถลงการณ์ว่า ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีเกินกว่า 4,000 รายต่อวัน จำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการรักษาจำนวน 37,396 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตเฉพาะในวันที่ 10 พฤษภาคม ถึง 1,700 ราย มาเลเซียกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ซึ่งอาจจะทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤต
“ข้อมูลทางวิชาการชี้ให้เห็นว่า การชุมนุมกันทำให้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเป็นไปได้ยาก และการที่ผู้คนจำนวนมากมาอยู่รวมกันในพื้นที่ปิด นำไปสู่การที่เชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วขึ้น และเราสามารถตัดการติดเชื้อโรคระบาดนี้ได้ด้วยการอยู่บ้าน โดยจะมีการบังคับใช้ “คำสั่งควบคุมการเคลื่อนที่” อย่างเข้มงวดมากขึ้น”
ทั้งนี้ จะมีการห้ามการเดินทางข้ามเขต ข้ามรัฐ เว้นแต่เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงานและเศรษฐกิจ เรื่องสุขภาพ เหตุฉุกเฉิน การนัดฉีดวัคซีน และคู่สมรสที่อยู่คนละพื้นที่กัน
ห้ามจัดงานที่มีการชุมนุมผู้คนจำนวนมาก เช่น งานฉลองแต่งงาน การเลี้ยงอาหารเย็น ชุมนุมตะฮ์ลิล รวมทั้งการจัดงานทั้งของรัฐ และเอกชน
อนุญาตให้ศูนย์เลี้ยงเด็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาล ดำเนินการได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโดยเคร่งครัด
ห้ามการจัดสัมมนา การประชุม แบบเผชิญหน้า แต่อนุญาตให้จัดพิธีนิกะฮ์ตามหลักศาสนาได้ โดยอยู่ภายใต้มาตรการที่กำหนดโดยหน่วยงานอิสลามประจำพื้นที่ (สำหรับชาวมุสลิม) และโดยกรมทะเบียนแห่งชาติ (สำหรับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม)
จำกัดจำนวนผู้นั่งรถยนต์ส่วนตัว อยู่ที่คันละ 3 คน รวมทั้งรถแท็กซี่ และรถ e-hailing ในส่วนของยานพาหนะที่เป็นของภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ ให้จำกัดจำนวนผู้โดยสารตามใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง
นายจ้างต้องกำหนดให้ลูกจ้าง หรือ พนักงานส่วนหนึ่ง ทำงานที่บ้าน โดยให้มีพนักงานในที่ทำงานไม่เกิน 30% ของจำนวนปกติเพื่อลดความแออัด
ห้ามจัดงานฉลองวันฮารีรายา (วันอีดฟิตริ) โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมทั้งห้ามการเดินทางไปเยี่ยมเยียนบ้านญาติ เพื่อนฝูง รวมทั้งไม่อนุญาตให้ไปเยี่ยมสุสานฝังศพด้วย
อนุญาตให้ละหมาดอีดฟิตริ แต่มีเงื่อนไขว่า มัสยิดที่รองรับผู้เข้ามาละหมาดได้เกิน 1,000 คน ต้องจำกัดจำนวนเหลือเพียงไม่เกิน 50 คน ส่วนมิสยิดที่มีผู้มาละหมาดไม่ถึง 1,000 คน จำกัดจำนวนเหลือเพียง 20 คน ทั้งนี้ รวมทั้งการละหมาดฟัรฎู 5 เวลาด้วย
ก่อนหน้านี้ มาเลเซียได้ประกาศห้ามการเดินทางระหว่างเขต และรัฐ ตลอดจนห้ามดำเนินกิจกรรมทางสังคม กีฬา และการศึกษา ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 6 มิถุนายน
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียย้ำว่า ตลอดเวลาในการล็อคดาวน์ประเทศภายใต้ “คำสั่งควบคุมการเคลื่อนที่” ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลจะใช้ระบบ HIDE เพื่อตรวจสอบสถานที่ และดำเนินการติดตามผล เขากล่าวย้ำว่า “หวังว่าประชาชนจะยังคงมีวินัย และปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ เพื่อทำลายห่วงโซ่การระบาดของเชื้อโรค”
ที่มา: www.thestar.com.my