จีนเปิดตัวนโยบายการรวมมัสยิด ซึ่งเป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: จีนเปิดตัว 'รวมมัสยิด' เป็นเพียงอ้างเท่านั้น
องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน (HRW) ระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังลดจำนวนมัสยิดในจังหวัดหนิงเซี่ยและกานซู่ ภายใต้นโยบาย “การรวมมัสยิด” ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา
ทางการจีนได้ปลด ปิด รื้อถอน และดัดแปลงมัสยิด เพื่อใช้ในทางโลก (secular) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาล ในการจำกัดการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิมจีน
HRW ยังระบุอีกว่า ทางการสั่งถอด รื้อถอน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมอิสลาม เช่น โดมและหอคอย ออกจากมัสยิดอื่น ๆ อีกหลายแห่ง มายา หวาง รักษาการผู้อำนวยการ HRW ประจำประเทศจีน กล่าวว่า “มันไม่ได้เป็นการรวมมัสยิดตามที่อ้าง แต่ปิดมัสยิดหลายแห่ง ซึ่งเป็นการละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนา การปิด การทำลาย และการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของรัฐบาลจีน เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างเป็นระบบ ในการควบคุมกากรปฏิบัติศาสนกิจของศาสนาอิสลามในประเทศจีน”
อย่างไรก็ตาม สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปิเสธข้อกล่าวหาของ HRW และว่า “ปักกิ่ง ปกป้องเสรีภาพในการศรัทธาในศาสนา ของพลเมืองจีนตามกฎหมาย” และว่า กลุ่มมุสลิมต่าง ๆ ในจีน มีอิสระในการปราะกอบพิธีทางศาสนาตามความเชื่อ กฎระเบียล และประเพณีดั้งเดิม
สถานทูต ฯ ยังระบุในแถลงการณ์ ถึงรายงานของ HRW โดยทางอ้อม ว่า HRW ควรเคารพข้อเท็จจริง ละทิ้งอคติ และหยุดการโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีมูลความจริง
กฎหมายจีนอนุญาตให้ผู้คนปฏิบัติศาสนกิจได้ เฉพาะในสถานที่สักการะที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ของศาสนาที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเท่านั้น และเจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมสถานที่สักการะอย่างเข้มงวด
นับตั้งแต่ปี 2016 ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เรียกร้องว่า ชาวจีนไม่จำต้องนับถือศาสนา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เชื่อมั่นว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) เป็นผู้ชี้ขาดชีวิตทางจิตวิญญาณของผู้คน หลังจากนั้น รัฐได้เข้ามาควบคุมศาสนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น
มีการอ้างอิงถึงเรื่อง “การรวมมัสยิด” ในเอกสารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อเดือนเมษายน 2018 ซึ่งสรุปยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีหลายแง่มุมในการ “ทำให้ศาสนาอิสลามเสื่อมเสีย” หรือ “ทำให้กลายเป็นศาสนาแบบจีน” มากขึ้น โดยสั่งให้ CCP และหน่วยงานของรัฐทั่วประเทศ “เสริมสร้างการจัดการที่ได้มาตรฐานในการก่อสร้าง การปรับปรุง และการขยายสถานที่ทางศาสนาอิสลาม”
เอกสารยังระบุถึงหลักการ คือ “ไม่ควรมีศาสนสถานอิสลามที่สร้างขึ้นใหม่” เพื่อมุ่งหวังบีบอัดจำนวนมัสยิดทั้งหมด แม้ว่าอาจมีข้อยกเว้น แต่เอกสารระบุว่า “ควรมีการรื้อถอนมัสยิดมากกว่าการก่อสร้าง”
แม้ว่าทางการจีนจะกล่าวว่า จุดประสงค์ของการรื้อถอนและปิดมัสยิด คือ เพื่อลดภาระทางเศรษฐกิจให้กับชาวมุสลิมในพื้นที่ชนบทของประเทศ แต่ในหลายกรณี ความพยายามในการทำลายมัสยิด กลับถูกขัดขวางโดยการต่อต้านของชาวมุสลิมในท้องถิ่น และความขัดแย้งกับตำรวจก็จบสิ้นลง
ในประเทศจีนมีชาวมุสลิมหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ จำนวนรวมประมาณ 20 ล้านคน
ที่มา: www.pajhwok.com