ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ-ปาเลสไตน์ จะเป็นพยานสำคัญในการเปิดโปงอิสราเอลต่อศาลโลก
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : ศัลยแพทย์อังกฤษ-ปาเลสไตน์ พยานเปิดโปงอิสราเอลต่อศาลโลก
แพทย์ชาวอังกฤษ-ปาเลสไตน์ ที่ทำงานที่โรงพยาบาลในกาซา ในช่วงที่อิสราเอลโจมตีในพื้นที่ หวังว่าคำให้การที่เขาให้ไว้กับตำรวจอังกฤษ จะนำไปสู่การดำเนินคดีในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
ฆอซซัน อะบู ซิตตา (Ghassan Abu Sitta) วัย 54 ปี ศัลยแพทย์ตกแต่งที่เชี่ยวชาญการดูแลบาดแผลที่เกิดจากความขัดแย้ง ใช้เวลา 43 วัน เป็นแพทย์อาสาในดินแดนปาเลสไตน์ โดยส่วนใหญ่ทำงานที่โรงพยาบาล อัล-อะฮ์ลี และโรงพยาบาลชีฟา ทางตอนเหนือ
เขาให้การเป็นพยานต่อ Met ซี่งเป็นหน่วยตำรวจที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการบาดเจ็บที่เขาพบเห็น และประเภทของอาวุธที่ใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานที่ถูกรวบรวมเพื่อการสอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงคราม ที่กระทำโดยคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย โดยเขามีกำหนดเดินทางไปยังกรุงเฮกในสัปดาห์นี้ เพื่อพบกับผู้สืบสวนของ ICC
เขากล่าวว่า ความรุนแรงของสงครามถือเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุด ในบรรดาความขัดแย้งมากมายที่เขาเคยเผชิญมา รวมถึงความขัดแย้งอื่น ๆ ในฉนวนกาซา อิรัก ซีเรีย เยเมน และเลบานอนตอนใต้
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ AFP เขาเปรียบเทียบให้เห็นชัดถึงขนาดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงทั้งหมด ว่า “มันเป็นความแตกต่างระหว่างน้ำท่วมกับสึนามิ แค่จำนวนผู้บาดเจ็บ ขนาดของภัยพิบัติ จำนวนเด็กที่ถูกสังหาร ความรุนแรงของการระเบิด ความจริงที่ว่า ภายในไม่กี่วันหลังสงครามเริ่ม ระบบสุขภาพในฉนวนกาซาก็ท่วมล้น จนล้มเหลว”
อะบู ซิตตา เกิดในคูเวต และอาศัยอยู่ในอังกฤษตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1980 เขาเดินทางจากอียิปต์เข้าฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมแพทย์ไร้พรมแดน
“ตั้งแต่เริ่มแรก ความสามารถของเราน้อยกว่าจำนวนผู้บาดเจ็บที่เราต้องรักษา เราจำเป็นต้องตัดสินใจเรื่องยาก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เราจะรักษาใครก่อนดี”
เขาจำได้ถึงชายวัย 40 ปีคนหนึ่ง ที่บาดเจ็บเพราะมีเศษกระสุนฝังอยู่ในหัว การรักษาจำเป็นต้องใช้เครื่อง ทีซี สแกน และต้องพบกับศัลยแพทย์ด้านประสาท “แต่เราไม่มีเลยสักอย่าง เราจำเป็นต้องบอกลูก ๆ ของเขา และเด็ก ๆ ก็ล้อมอยู่รอบเตียงเข็นตลอดทั้งคืน จนเขาหมดลมไปในตอนเช้า”
โรงพยาบาลยังขาดแคลนยาชา และยาแก้ปวดแบบฉับพลัน ซึ่งหมายความว่า ศัลยแพทย์จะต้องดำเนินการ ทำความสะอาดบาดแผล แม้จะมีความเจ็บปวดอย่างมากมายโดยไม่มีสิ่งที่จะใช้บรรเทา “เพราะเป็นทางเลือก ระหว่างการยอมเจ็บปวดอย่างมากมาย กับการยอมให้แผลติดเชื้อและเสียชีวิตจากภาวะดังกล่าว”
อะบู สิตตะ ยังยืนกรานว่า เขารักษาแผลไหม้ที่เกิดจากฟอสฟอรัสขาว ซึ่งห้ามใช้เป็นอาวุธเคมีตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่อนุญาตให้ใช้ส่องสว่างในสนามรบ และเป็นม่านควันได้ “เพราะการบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสมีความโดดเด่นมาก มันยังคงเผาไหม้จนถึงส่วนที่ลึกที่สึดของร่างกาย จนกระทั่งถึงกระดูก”
เขาออกจากฉนวนกาซา หลังกลายเป็นแรงงานที่เกินความจำเป็น เพราะการขาดเวชภัณฑ์ทำให้เขาไม่สามารถทำการผ่าตัดได้อีกต่อไป หลังจากนั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในอังกฤษ เพื่อบรรยายสรุปให้นักการเมือง และองค์กรด้านมนุษยธรรมทราบถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการได้รับความช่วยเหลือ
หน่วย Met กล่าวว่า จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานสำหรับการสอบสวนของ ICC เกี่ยวกับข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงคราม ที่กระทำโดยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งอะบูซิตตา ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ Met เกี่ยวกับสิ่งที่เขาพบเห็น รวมถึงการใช้ฟอสฟอรัสขาว และการโจมตีพลเรือน เขายังบรรยายถึงการรอดชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาล อัล-อะฮ์ลี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งประเทศตะวันตกกล่าวหาว่า สาเหตุมาจากการที่กองกำลังปาเลสไตน์ยิงจรวดพลาด
“ในที่สุด ความยุติธรรมก็จะตามทันบุคคลเหล่านี้ หากไม่ใช่ใน 5 ปี 10 ปี เมื่อพวกเขาอายุ 80 ปี เมื่อใดก็ตามที่ความสมดุลของอำนาจในโลก ช่วยให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับความยุติธรรม”
ที่มา: www.arabnews.com
https://news.muslimthaipost.com/news/37924
- แผ่นดินไหวญี่ปุ่น ยอดดับเพิ่มขึ้น 3 เท่า
- อิสราเอลส่งสัญญาณ พร้อมยุติฉนวนกาซา
- อิสราเอลนับพันประท้วง รัฐบาลลาออก-ปล่อยตัวเชลย (ชมภาพ)
- ม็อบหนุนปาเลสไตน์ ปิดสะพานรัฐสภาอังกฤษ (ชมภาพ)
- รมต.อิสราเอลตำหนิสหรัฐฯ ประณามบังคับอพยพกาซา
- ขับไล่ปาเลสไตน์! ซาอุฯประณาม รมต.อิสราเอล
- ยิวที่รอดชีวิตเหตุฮามาสบุก ยื่นฟ้องทัพอิสราเอล
