ที่ประชุมสหประชาชาติลงมติให้อิสราเอลยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ผลโหวตชัดเจน! UN ให้อิสราเอลยุติยึดครองปาเลสไตน์
ที่ประชุมสหประชาชาติลงมติให้อิสราเอลยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ รับรองมติที่ไม่มีข้อผูกพันซึ่งร่างเสนอโดยชาวปาเลสไตน์ เรียกร้องให้อิสราเอล “ยุติการปรากฏตัวอย่างผิดกฎหมายในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง” ภายใน 12 เดือน
มีผู้แทนประเทศต่าง ๆ ที่ลงมติเห็นชอบ 124 เสียง และไม่เห็นชอบ 14 เสียง รวมทั้งอิสราเอล โดยมีผู้งดออกเสียง 43 เสียง ในฐานะรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก ปาเลสไตน์ไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้
มติดังกล่าว อิงตามความเห็นของที่ปรึกษาศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ที่ออกเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า อิสราเอลกำลังยึดครอง เวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออก และฉนวนกาซา โดยขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ เรียกการลงมติครั้งนี้ ว่า เป็นจุดเปลี่ยน “ในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความยุติธรรม” แต่ฝ่ายอิสราเอลประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเป็น “การก่อการร้ายทางการทูต”
แม้ว่ามติของสมัชชาใหญ่ไม่มีผลผูกพัน แต่ก็มีน้ำหนักเชิงสัญลักษณ์และการเมือง เนื่องจากมติดังกล่าวสะท้อนถึงจุดยืนของรัฐสมาชิกสหประชาชาติทั้ง 193 ประเทศ
การลงมติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสงครามที่อิสราเอลโจมตีในฉนวนกาซาผ่านมาเกือบ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 41,110 รายในฉนวนกาซา
ในช่วงเวลาเดียวกันความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ยังเพิ่มสูงขึ้น โดยสหประชาชาติระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 680 คน ถูกสังหารโดยทหารอิสราเอล หรือผู้ตั้งถิ่นฐานโดยผิดกฎหมายชาวอิสราเอล
ความเห็นที่ปรึกษาจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ระบุว่า “คณะลูกขุน 15 คน พบว่า การที่อิสราเอลปรากฏตัวอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองนั้นผิดกฎหมาย และอิสราเอลอยู่ภายใต้พันธกรณี เพื่อยุติการมีอยู่อย่างผิดกฎหมายโดยเร็วที่สุด”
ศาล ICJ ยังระบุอีกว่า “อิสราเอลควรอพยพผู้ตั้งถิ่นฐานทั้งหมดออกจากดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และ ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”
อิสราเอลได้สร้างชุมชนประมาณ 160 แห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวยิวประมาณ 700,000 คน ในเขตเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออก ตั้งแต่ปี 1967 (2510) ศาลระบุว่า การตั้งถิ่นฐานดังกล่าว “ได้รับการจัดตั้งขึ้นและยังคงรักษาไว้โดยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ซึ่งอิสราเอลโต้แย้งมาตลอด นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้กล่าวในขณะนั้น ว่า “ศาลได้ ตัดสินเรื่องโกหก” และยืนยันว่า “ชาวยิวไม่ได้ยึดครองดินแดนเพราะเป็นดินแดนของตนเองอยู่แล้ว”
กระทรวงการต่างประเทศของหน่วยงานปาเลสไตน์ ในเวสต์แบงก์ กล่าวถึงการลงมติครั้งนี้ ว่า เป็น “ช่วงเวลาสำคัญและประวัติศาสตร์ สำหรับเป้าหมายของชาวปาเลสไตน์ และกฎหมายระหว่างประเทศ” ที่การสนับสนุนจากเกือบ 2 ใน 3 ของประเทศสมาชิกสหประชาชาติ สะท้อนให้เห็นถึง “ฉันทามติทั่วโลก ว่า การยึดครองจะต้องยุติและอาชญากรรมต้องยุติ” และ ยืนยันอีกครั้งถึงสิทธิที่ไม่อาจแบ่งแยกของชาวปาเลสไตน์ในการตัดสินใจด้วยตนเอง”
ที่มา: www.saudigazette.com.sa
https://news.muslimthaipost.com/news/38529
- กต.อินเดียชี้นิ้วผู้นำอิหร่าน ดูแลมุสลิมในประเทศให้ดีก่อน!
- บริษัทเพจเจอร์ฮังการีปิดเว็บหนี หลังถูกโบ้ยเป็นผู้ผลิตเพจเจอร์ระเบิด
- ค่าเงินเชเกลอิสราเอลดิ่ง หลังเหตุเพจเจอร์ระเบิด
- ฮูซีย์อ้าง สหรัฐฯ เสนอรับรองเป็นรัฐบาลเยเมน 'แลกหยุดโจมตีเรือ'
- งานเมาลิดมาเลเซีย พระราชาธิบดี-พระราชินีเสด็จร่วม พร้อมมุสลิม 6,000 คน
- UN ตำหนิชาติตะวันตก หนุนอิสราเอลตั้งแต่เริ่มสงครามกาซา
- ผลสำรวจชี้ นักเรียนมุสลิมในนิวยอร์กถูกรังแกถึง 60%
- อึ้ง! มาเลเซียบุกช่วยเด็ก 400 คนหลังมีการกล่าวหาที่ไม่คาดคิด
- สุดยอด! EU และรัฐมุสลิมรวมพลังในสเปน หวังตั้งรัฐปาเลสไตน์
- ฮูซีย์อ้างเป็นผู้ยิงขีปนาวุธ โจมตีอิสราเอลอย่างดุดัน
- กองทัพอิสราเอลมีหลักฐานใด ชี้ตัวประกัน 3 รายเสียชีวิตโจมตีทางอากาศ?
- ใบปลิวเตือนภัย! อิสราเอลสั่งชาวเลบานอนอพยพก่อนโจมตี
- ผู้แทนปาเลสไตน์คว้าสิทธิ์ เป็นสมาชิกเต็มตัวในสมัชชาใหญ่ UN