ยุคใหม่ของซีเรียที่ปราศจาก บาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มขึ้นแล้ว
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ซีเรียยุคใหม่! ไม่มีอัสซาด เริ่มขึ้นแล้ว
ยุคใหม่ของซีเรียที่ปราศจาก บาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มขึ้นแล้ว
ดามัสกัส กลับมามีชีวิตอีกครั้งในวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งความหวัง แต่ยังไม่มีความแน่นอน หลังจากกองกำลังฝ่ายค้านติดอาวุธยึดเมืองหลวง และประธานาธิบดีอัสซาด หลบหนีออกนอกประเทศไปยังรัสเซีย หลังสงครามกลางเมืองยาวนาน 13 ปี และนานกว่า 50 ปี แห่งการปกครองของตระกูล อัล-อัสซาด
การจราจรกลับมาหนาแน่นอีกตครั้ง ผู้คนเริ่มออกจากบ้านหลังจากมีเคอร์ฟิวตอนกลางคืน แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ยังคงปิดอยู่ กองกำลังฝ่ายค้านที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ รักษาการอยู่กลางเมือง
ฟิรเดาส์ โอมาร์ จากเมืองอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นหนึ่งในท่ามกลางนักรบที่ชุมนุมอยู่ที่จัตุรัสอุมัยยาตทางตอนกลาง กล่าวว่า เขาต่อสู้กับรัฐบาลอัสซาดมาตั้งแต่ปี 2554 และตอนนี้ตั้งตารอที่จะวางอาวุธ และกลับไปเป็นชาวนาตามเดิม “เรามีเป้าหมาย และตอนนี้เราก็ทำมันเสร็จแล้ว เราต้องการให้รัฐและกองกำลังความมั่นคงเข้ามารับผิดชอบ”
บาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย
การรุกคืบอย่างรวดเร็วของพันธมิตาติดอาวุธที่นำโดย “กลุ่มฮายัต ตะฮฺรีรฺ อัล-ชาม (HTS)” ซึ่งเป็นอดีตเครือข่ายอัล-กออิดะฮ์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากรุ่นสู่รุ่นสำหรับตะวันออกกลาง เป็นการยุติสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนหลายแสนคน ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในยุคปัจจุบัน และทำให้เมืองต่าง ๆ พังทลายลงเป็นซากปรักหักพัง จำนวนประชากรลดลงในพื้นที่ชนบทบางส่วน และเศรษฐกิจถูกทำลายลงจากการคว่ำบาตรทั่วโลก ในที่สุดผู้ลี้ภัยหลายล้านคนที่อยู่ตามค่ายผู้อพยพต่าง ๆ ทั่วตุรเคีย เลบานอน และจอร์แดน ก็สามารถกลับบ้านได้
HTS ยังคงถูกกำหนดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยองค์การสหประชาชาติ แต่กลุ่มใช้เวลาหลายปีในการพยายามลดภาพลักษณ์ และตีตัวออกห่างจากรากเหง้าของอัล-กออิดะฮ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับรัฐต่างประเทศ และชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ในซีเรีย
ผู้นำกลุ่ม อะเหม็ด อัล-ชารา หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ อะบู โมฮัมเหม็ด อัล-โญลานี ให้คำมั่นที่จะสร้างซีเรียขึ้นมาใหม่ เขากล่ากับฝูงชนจำนวนมากที่มัสยิดอุมัยยะฮ์ ซึ่งเป็นมัสยิดโบราณที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า “พี่น้องของฉัน ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังถูกเขียนขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค หลังจากชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการทำงานหนัก ซีเรียจะเป็น - สัญญาณสำหรับประชาชาติอิสลาม –“
โมฮัมเหม็ด อัล-ญาลาลี นายกรัฐมนตรีของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด กล่าวกับสื่อว่า เขายินดีที่จะพบกับ อัล-โญลานี และพร้อมที่จะจัดเตรียมเอกสาร และความช่วยเหลือในการโอนอำนาจ
เขายังกล่าวว่า ชะตากรรมของกองทัพซีเรีย จะ “ตกอยู่ในมืองของพี่น้องที่จะเข้ามาบริหารกิจการของประเทศ สิ่งที่เรากังวลในวันนี้ คือ การให้บริการอย่างต่อเนื่องแก่ชาวซีเรีย”
ในยุคการบริหารของอัล-อัสซาด มีการควบคุมนักโทษการเมืองหลายแสนคน แต่พวกเขาได้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวที่กลับมารวมกันร้องไห้ด้วยความดีใจ
องค์กรช่วยเหลือ White Helmets ระบุว่า ได้ส่งทีมฉุกเฉินเพื่อค้นหาห้องขังใต้ดินที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเชื่อว่า ยังคงควบคุมผู้ถูกคุมขังไว้
หนึ่งในพื้นที่สุดท้ายที่จะตกเป็นของกองกำลังฝ่ายค้าน คือ พื้นที่แถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานของกลุ่มชีอะฮ์ อะลาวี ของอัสซาด และเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือรัสเซีย ชาวบ้าน 2 คน กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ สถานการณ์คลี่คลายไปดีกว่าที่พวกเขาคาดไว้ ดูเหมือนไม่มีการตอบโต้ทางแนวคิดต่อชาวอะลาวีเลย และว่า กองกำลังฝ่ายค้านได้ไปเยี่ยมที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่ง โดยบอกให้เขามอบอาวุธใด ๆ ก็ตามที่เขามี ซึ่งพวกเขาก็ทำตาม
ใกล้กับเมืองลาตาเกีย กองกำลังต่อต้าน ยังไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน กอรฺดาฮา ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตระกูล อัล-อัสซาด และเป็นที่ตั้งของสุสานขนาดใหญ่ของบิดาของอดีตประธานาธิบดี ที่ขึ้นสู่อำนาจในช่วงทศวรรษ ที่ 1960 ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า บุคคลอาวุโสทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับอัล-อัสซาด และการปกครองของเขา ได้ออกไปแล้ว
รัสเซีย ระบุว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินอนาคตของฐานทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในซีเรีย แต่รัสเซียจะเจรจาหารือในประเด็นนี้กับผู้บริหารประเทศกลุ่มใหม่”
อิสราเอลระบุว่า การล่มสลายของอัล-อัสซาด เป็นผลโดยตรงจากการที่อิสราเอลโจมตีฮิซบุลเลาะฮ์ในเลบานอน ซึ่งสนับสนุนอัสซาดมานานหลายปี แต่ถูกทำลายลงตั้งแต่เดือนกันยายน โดยการรณรงค์โจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินของอิสราเอล
นับตั้งแต่กองกำลังต่อต้านติดอาวุธเข้าสู่ดามัสกัส อิสราเอลได้โจมตีสถานที่ต่าง ๆ ในซีเรีย เจ้าหน้าที่อิสราเอล กล่าวว่า การโจมตีทางอากาศจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายวัน เพื่อไม่ให้คลังแสงเก่าของอัสซาดตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
รัฐมนตรีกลาโหม นายอิสราเอล แคทซ์ กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลจะ “ทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์หนักทั่วซีเรีย รวมถึงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ การป้องกันทางอากาศ ขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้น ขีปนาวุธร่อน จรวดพิสัยไกล และขีปนาวุธชายฝั่ง”
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา อิสราเอลยังได้ผลักดันรถถังข้ามชายแดนเข้าสู่เขตกันชนปลอดทหาร โดยมีการเผยแพร่ภาพถ่ายกองกำลังของตนในพื้นที่ชายแดนภูเขาเฮอร์มอน นายกิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า อิสราเอลไม่สนใจที่จะแทรกแซงกิจการภายในของซีเรีย แต่กังวลเพียงการปกป้องพลเมืองของตนเท่านั้น “นั่นคือเหตุผลที่เราโจมตีระบบอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ เช่น อาวุธเคมีที่เหลืออยู่ หรือ ขีปนาวุธและจรวดพิสัยไกล เพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง”
สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทหาร 900 นาย ประจำภาคพื้นดินในซีเรีย ที่ปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดทางตะวันออก ระบุว่า ได้โจมตีเป้าหมายราว 75 เป้าหมายต่อค่าย IS และกลุ่มปฏิบัติการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
กองกำลังเคิร์ด ที่มีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง ได้ปะทะกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่หนุนหลังโดยตุรเคีย ทางตอนเหนือ มีการเผยแพร่คลิปที่รับรองโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่แสดงให้เห็นฝ่ายต่อต้านที่หนุนหลังโดยตุรเคีย เข้าไปที่เมืองมันบิจ ซึ่งถูกยึดโดยกลุ่มเคิร์ดไปแล้ว - news.muslimthaipost.com
ที่มา: www.english.alarabiya.net
https://news.muslimthaipost.com/news/38711
- นอร์เวย์เน้น ต้องบูรณาการปาเลสไตน์ให้ครบ ทั้งเวสต์แบงก์และกาซา
- นักการทูตตุรเคีย คว้าตำแหน่งหัวหน้า OSCE แบบเอกฉันท์
- จอร์แดนย้ำ! ต้องรักษาเสถียรภาพ-เอกภาพของซีเรียไว้ก่อน
- นักรณรงค์ชาวยิวแฉเดือด! หลังอังกฤษปกป้องอิสราเอล 'ไม่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์'
- UN เร่งประชุมด่วน แก้ปัญหากาซา วิกฤตนี้ต้องจบ!
- แรงกดดันเพิ่ม! ยื่นฟ้องทูตทหารอิสราเอลในเบลเยียม ปมอาชญากรรมสงคราม
- สมัชชาใหญ่ UN ดันตั้งรัฐปาเลสไตน์ให้เป็นจริง
- จับตา! ฮามาสปล่อยคลิปล่าสุด ตัวประกันอิสราเอลในกาซา
- นักรบอิรักบุกซีเรีย ช่วยรัฐบาลลุยกบฏ
- อิสราเอลสั่งห้ามมัสยิดอะซาน อ้างรบกวนคนยิว
- ซีเรีย-พันธมิตรเปิดศึกเดือด! ท้าชน SDF ไม่มียั้ง