วิกฤติประเด็นห้ามใส่ฮิญาบของไนจีเรียเลวร้ายขึ้น ครูหลายคน สั่งให้นักเรียนหญิงมุสลิมถอดผ้าฮิญาบออก ก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ห้ามใส่ฮิญาบ ครูไนจีเรีย สั่งถอดผ้าคลุมก่อนเข้าโรงเรียน (ชมคลิป)
ลากอส, ไนจีเรีย – วิกฤติประเด็นห้ามใส่ฮิญาบของไนจีเรียเลวร้ายขึ้น หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ปรากฏมีการเผยแพร่คลิปทางออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนนานาชาติ และครูหลายคน สั่งให้นักเรียนหญิงมุสลิมถอดผ้าฮิญาบออก ก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมืองอิบาดัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
คลิปความยาว 45 วินาทีดังกล่าว ก่อให้เกิดความโกรธเคืองต่อชาวไนจีเรีย เนื่องจากพวกเขามีความเห็นไปในแนวทางเดียวกับศาสนาอิสลาม หลังจากมีความขัดแย้งกันทางกฎหมายในเรื่องนี้มาช้านาน
ในคลิปดังกล่าว มีเสียงครูตะโกนใส่แม่ของเด็กนักเรียนว่า “ไปลงนรกซะ” หลังจากที่แม่ของนักเรียนต่อว่าครู ว่า สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติ ส่วนครูตอบโต้ว่า เด็ก ๆ จะคลุมฮิญาบได้ตามใจชอบเมื่อออกไปจากเขตโรงเรียนแล้ว
กิมบา กากันด้า นักวิเคราะห์ด้านกิจการสาธารณะ กล่าวว่า สิ่งที่โรงเรียนปฏิบัติเป็นการสร้างอคติให้เพิ่มมากขึ้น และการห้ามนักเรียนใส่ฮิญาบมีเป้าหมายที่จะสร้างอคติและการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับการอยู่ในโลกที่แตกต่าง
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามได้แสดงความเห็นผ่าน ว่า โรงเรียนไม่ใช่มัสยิด หรือโบสถ์ ดังนั้น นักเรียนควรแต่งเครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียน และหากจะดำรงศรัทธาในศาสนาก็ให้ทำเมื่อออกนอกเขตโรงเรียนแล้ว
ในการตัดสินครั้งสำคัญในปี 2016 ศาลอุทธรณ์ไนจีเรียตัดสินว่า การสวมฮิญาบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และควรมีการอนุญาตให้คลุมฮิญาบได้ในโรงเรียน และในทุกสถานที่ ซึ่งเป็นการพลิกคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่เคยพิพากษาให้แบนการคลุมฮิญาบ ในรัฐลากอส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย ทำให้รัฐบาลต้องยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
- ดาราวัยรุ่นมุสลิม ทิ้งวงการเลือกความศรัทธาในศาสนา
- บาทหลวงหญิง เข้ารับศาสนาอิสลามที่เมืองคัตซิน่า ประเทศไนจีเรีย
- ร้านเช่าชุดกิโมโน สุดเจ๋ง! มีฮิญาบเอาใจสาวมุสลิม (ชมภาพ)
- อื้อฉาว! ชายาเจ้าผู้ครองนครดูไบ หอบลูกหนี-เงินกว่าพันล้าน เริ่มชีวิตใหม่
- 10 ชม.การเดินในเมืองนิวยอร์ค ระหว่างไม่คลุมฮิญาบ กับ คลุมฮิญาบ มีความแตกต่างกันอย่างไร ??
- คุณแม่นิวซีแลนด์พาลูกสาว 2 เข้ารับอิสลาม หลังเหตุโจมตีในมัสยิด
ที่มา: www.aa.com.tr