ตามความเชื่อของชาวคริสเตียน หลังจากพระเยซูเกิด มารดาของท่านได้พาท่านหลบหนีการล่าสังหารมายังอียิปต์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: คริสเตียน-มุสลิม ร่วมฉลองพระแม่มารี มารดานบีอีซา
ตามความเชื่อของชาวคริสเตียน หลังจากพระเยซูเกิด มารดาของท่านได้พาท่านหลบหนีการล่าสังหารมายังอียิปต์ เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังบ้าน ซึ่งในยุคนั้นเรียกว่า อาณาจักรจูเดีย (Kingdom of Judea) โดยเชื่อว่า จุดสุดท้ายในอียิปต์ ที่พวกเขาหยุดพักคือถ้ำที่ภูเขา Dronka
เดือนสิงหาคม ทุกปี ผู้ที่ศรัทธาในพระแม่มารี (พระนางมัรยัม) หลายพันคน เดินทางมายังถ้ำที่ภูเขาดังกล่าว ที่อยู่ใกล้เมือง Assiut ในประเทศอียิปต์ปัจจุบัน เพื่อแสดงการอุทิศตนและครอบครัวให้แก่ความศรัทธาในพระแม่มารี โดยพวกเขาจะพาทารกมารับศีลแบพติส และพวกผู้ใหญ่ก็คาดหวังว่าจะได้รับพรในการเดินทางมาด้วย
ภาพ 1 – ในเดือนสิงหาคม ทุกปี ชาวคริสต์คอปติค และมุสลิมในอียิปต์ เดินทางมายังอารามของพระแม่มารี ในเมือง Assiut เพื่อรำลึกถึงการที่นางพาทารกเยซูหนีมาพักในถ้ำนี้
ภาพ 2 – ถ้ำนี้เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่พระนางมารี พาทารกน้อยเยซูมาหลบภัยจากการตามสังหารของทหาร พระเจ้าเฮรอด
ภาพ 3 – ทางการอียิปต์ได้ลงทุนในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อรักษาการณ์ในพื้นที่ สร้างความมั่นใจให้กับชาวคริสต์คอปติคในอียิปต์ และชาวคริสต์จากประเทศอื่น ในการมาแสวงบุญที่นี่
ภาพ 4 – ชาวคริสต์จุดเทียน และสวดมนต์เมื่อมาถึงถ้ำ
ภาพ 5 – ถ้ำซึ่งเชื่อว่า เป็นที่พำนักของพระเยซู และครอบครัวของท่าน ซึ่งทุกคนต้องมาชม
ภาพ 6 – ชาวคริสต์ทำพิธีเชือดสัตว์พลี และบริจาคเงิน
ภาพ 7 – ผู้ศรัทธาซื้อรูปพระแม่มารีไปประดับบ้าน
ภาพ 8 – เด็กทารกรอเข้าพิธีรับศีลแบพติส หรือศีลจุ่ม
ภาพ 9 – ผู้ทรงศีลประจำอารามประกอบพิธีแบ๊พติส ให้ทารก
ภาพ 10 – พ่อ-แม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับทารกที่ผ่านการรับศีลจุ่มแล้ว
ภาพ 11 – ชาวคริสต์คอปติคในอียิปต์ มีประเพณีในการสักรูปไม้กางเขนที่ข้อมือขวาให้กับเด็ก
ภาพ 12 – การมาเยือนถ้ำของพระแม่มารี ขยายตัวขึ้นทุกปี ปีนี้มีการเปิดห้องใหญ่ ติดแอร์ เพื่อให้เป็นที่พักของผู้มาเยือน
ภาพ 13 – ร้านขายน้ำ ซึ่งมีผู้คนออเต็ม เพื่อรอซื้อน้ำดับกระหาย
ภาพ 14 – ครอบครัว และเพื่อน ๆ พักผ่อน และสังสรรค์ เสวนา ด้านนอกถ้ำ
ภาพ 15 – บิช้อป Uannas ประธานอารามพระแม่มารีผู้บริสุทธิ์ เดินนำ และประสาทพรแก่ผู้แสวงบุญ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำทุกวันตลอดเทศกาล นาน 15 วัน
ภาพ 16 – บิช้อป เล่าว่า พระแม่มารี พระเยซู และชายผู้ทำหน้าที่พิทักษ์นาง เดินทางมาพักในถ้ำนี้ เพื่อรอให้น้ำในแม่น้ำไนล์ซึ่งขณะนั้นเอ่อล้นฝั่งลดลง ก่อนที่จะพากันเดินทางล่องไปโดยเรือ
ภาพ 17 – มีบริการสักสำหรับพวกหนุ่ม ๆ ด้วย
เรื่องที่คุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับ บทบาทของ พระเยซูและพระแม่มารี ในทัศนะของศาสนาอิสลาม
1. พระเยซู พระแม่มารี และทูตสวรรค์กาเบรียล (อาหรับ : ยิบรออีล) ทั้งหมดถูกกล่าวถึงไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน (เช่นเดียวกับ อดัม โนอาห์ อับราฮัม โมเสส และบุคคลอื่นอีกหลายคนที่ถูกบันทึกในพระคัมภีร์ไบเบิล)
2. มุสลิมเชื่อว่าพระเยซู (อาหรับเรียกว่า อีซา) เป็นศาสนทูตคนหนึ่งของพระเจ้า กำเนิดจากหญิงพรหมจรรย์ (พระแม่มารี) และท่านจะกลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้งก่อนวันพิพากษาเพื่อฟื้นฟูความยุติธรรมและต่อสู้กับดัจญาล (จอมโกหกและอ้างตัวเป็นศาสนทูต ที่จะมาสร้างความวุ่นวาย ความโกลาหลในยุคสุดท้าย)
3. พระแม่มารี (อาหรับเรียกว่า มัรยัม) นั้น บทหนึ่ง (ซูเราะห์) ของอัลกุรอานได้ตั้งชื่อตามชื่อของเธอ เรียกว่า “บทมัรยัม” ซึ่งเป็นบทเดียวในอัลกุรอานที่ตั้งโดยใช้ชื่อผู้หญิง ในความเป็นจริงพระแม่มารี (มัรยัม) คือสตรีคนเดียวที่ถูกเอ่ยชื่อในอัลกุรอานอย่างชัดเจน ในขณะที่สตรีคนอื่นๆ จะถูกกล่าวถึงโดยอ้างถึงความสัมพันธ์หรือฉายานาม เช่น ภรรยาของอดัม (อาดัม) แม่ของโมเสส (มูซา) ราชินีแห่งซาบาห์ อีกทั้งพระแม่มารีถูกกล่าวถึงหลายครั้งในอัลกุรอานมากกว่าที่ถูกกล่าวถึงในไบเบิลเสียอีก
4. เมื่อกล่าวถึงนามพระเยซู ก็เช่นเดียวกับการกล่าวถึงนามบรรดาศาสดาทั้งหมดรวมทั้งศาสดามุฮัมหมัด ที่มุสลิมจะต่อท้ายด้วยคำสรรเสริญว่า “ขอความสันติจงประสบแด่ท่าน” (อาหรับ : อะลัยฮิสสลาม)
5. ชาวมุสลิมเชื่อว่าพระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์ คัมภีร์กุรอานกล่าวถึงหลายปาฏิหาริย์ของพระเยซู เช่น รักษาคนตาบอด รักษาโรคเรื้อน รักษาให้ฟื้นจากความตาย และการเป่าชีวิตเข้าไปในนกที่ปั้นจากดินเหนียว เป็นต้น
6. เรื่องราวการประสูติของพระเยซูถูกกล่าวถึงในคัมภีร์กุรอาน ซึ่งก็เป็นเรื่องราวของความมหัศจรรย์ครั้งแรกของท่าน เมื่อท่านได้พูดตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ในเปล และประกาศว่าตัวเองเป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า นี่คือเรื่องราวของท่านในอัลกุรอานซูเราะห์ (บท) มัรยัม อายะห์ (โองการ) ที่ 16-34 :
• และจงกล่าวถึง (เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก (ของบัยตุลมักดิส)
• แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้วเขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์
• นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง”
• เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงฑูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ”
• นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว”
• เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
• แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ไกลแห่งหนึ่ง
• ความเจ็บปวดใกล้คลอดทำให้นางหลบไปที่โคนต้นอินทผลัม นางได้กล่าวว่า “โอ้ ! หากฉันได้ตายไปเสียก่อนหน้านี้ และฉันเป็นคนไร้ค่าถูกลืมเสียก็จะดี”
• ดังนั้น เขา (มะลัก/เทวทูต) ได้เรียกนางทางเบื้องล่างต้นอินทผลัมว่า “อย่าได้เศร้าเสียใจ แน่นอน พระเจ้าของเธอทรงจัดลำธารไว้เบื้องล่างเธอแล้ว
• “และจงเขย่าต้นอินทผลัม ให้มันเอนมาทางตัวเธอ มันจะหล่นลงมาที่ตัวเธอเป็นอินทผลัมที่สุกน่ากิน”
• “ฉะนั้น จงกิน จงดื่ม และจงทำจิตใจให้เบิกบานเถิด หากเธอเห็นมนุษย์คนใดก็จงกล่าวว่า ฉันได้บนการสงบนิ่งไว้ต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานี ฉันจะไม่พูดกับผู้ใดเลยวันนี้”
• แล้วนางได้พาเขามายังหมู่ญาติของนางโดยอุ้มเขามา พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มัรยัมเอ๋ย ! แท้จริงเธอได้นำเรื่องประหลาดมาแล้ว”
• “โอ้ น้องหญิงของฮารูน พ่อของเธอมิได้เป็นชายชั่ว และแม่ของเธอก็มิได้เป็นหญิงไม่บริสุทธิ์”
• นางชี้ไปทางเขา พวกเขากล่าวว่า “เราจะพูดกับผู้ที่อยู่ในเปลที่เป็นเด็กได้อย่างไร?”
• เขา (อีซา) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและทรงให้ฉันเป็นนะบี (ศาสนทูต)”
• “และพระองค์ทรงให้ฉันได้รับความจำเริญ ไม่ว่าฉันจะอยู่ ณ ที่ใด และทรงสั่งเสียให้ฉันทำการละหมาดและจ่ายซะกาตตราบที่ฉันมีชีวิตอยู่”
• “และทรงให้ฉันทำดีต่อมารดาของฉันและจะไม่ทรงทำให้ฉันเป็นผู้หยิ่งยะโส ผู้เลวทรามต่ำช้า”
• “และความศานติจงมีแด่ฉัน วันที่ฉันถูกคลอด และวันที่ฉันตาย และวันที่ฉันถูกฟื้นขึ้นให้มีชีวิตใหม่”
• นั่นคืออีซาบุตรของมัรยัม มันเป็นคำบอกเล่าที่จริง ซึ่งพวกเขายังมีความสงสัยกันอยู่
ที่มา: www.voanews.com